หลังมีการเผยวันเปิดตัวรถใหม่รุ่นที่ 2 ของค่ายอย่าง NETA X เอสยูวีไฟฟ้าพร้อมขายและลุ้นราคากันทั่วประเทศในวันที่ 25 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ล่าสุด NETA คอนเฟิร์มแล้วที่จะเปิดตัวและเปิดราคา NETA X ในวันที่ 25 กรกฎาคมโดยจะขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่นเริ่มต้น 410 Comfort และรุ่นท็อป 480 Smart
ภายนอก Exterior
มาในรหัส EP37 ภายนอกหล่อใหม่สปอร์ตเท่ด้วยคิ้วไฟ DRL แบบ LED ส่วนบนเปรียบเสมือนคิ้ว ชุดกันชนหน้ากับกระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ NETA ใต้ช่องไฟ DRL ติดตั้งไฟหน้า LED ขนาดเล็กไว้ ตกแต่งขอบส้ม พร้อมช่องระบายอากาศออกแบบใหม่ ด้านข้างตกแต่งด้วยคิ้วชายล่างสีเดียวกับตัวรถผสมความเข้มด้วยคิ้วขอบล้อสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R18 ตัวรถมีความยาว 4,619 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,860 มิลลิเมตร ความสูง 1,628 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,770 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
หรูหราด้วยคอนโซลหน้าออกแบบใหม่ลดปุ่มฟังก์ชันให้น้อยลงและใส่หนังสัมผัสคุณภาพ พร้อมสัมผัสขนาดใหญ่ขนาด 15.6 นิ้ว จอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล LCD แยกออกจากกันขนาด 8.9 นิ้ว พร้อมใช้ชิพประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมลำโพง 8 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ใหม่ทรงท้ายตัด 3 ก้านเกียร์อัตโนมัติย้ายมาอยู่คอพวงมาลัยหรือเรียกกันว่าเกียร์คอจากเดิมเป็นเกียร์หมุน เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ในรถได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงระบบควบคุมรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือให้ผู้ใช้รถสามารถทราบถึงสถานะด้านต่างๆ ของรถรวมถึงสั่งการฟังก์ชันของตัวรถ อาทิ การล็อค/ปลดล็อคประตู การควบคุมเครื่องปรับอากาศ การค้นหาตำแหน่งรถ รวมไปถึงการจองนัดหมายเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุบุนุ่มถึง 80% ของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร พร้อมโทนสีทูโทนสีดำน้ำตาลและสีดำล้วน พร้อมเบาะนั่งคุณภาพพรีเมียมที่หรูหราและระบบต้อนรับคนขับ (Welcome Seat) เบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งโดยด้านหลังสามารถพับได้มีพื้นที่เพิ่มถึง 1,388 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่วางของ 508 ลิตร พื้นที่ภายในด้านหลังกว้างขวางนั่งสบายโดยมีความยาว 927 มิลลิเมตร และด้านหน้ามีความยาว 838 มิลลิเมตร
ขุมพลัง Performance
ไฟฟ้าเป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า Permanent magnet synchronous motor พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ LFP ความจุ 62 kWh จาก CATL ให้กำลังถึง 163 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC หรือ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 9.5 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ทั้ง Sport Comfort และ ECO
การชาร์จมี 2 แบบใช้หัวชาร์จแบบ CCS Type2 โดยชาร์ช้ากระแสสลับ AC รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW จาก 20-100% ใช้เวลาในการชาร์จ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าชาร์จเร็วกระแสตรง DC รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 100kW จาก 30-80% ใช้เวลา 30 นาที และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าปรับน้ำหนักตามความเร็วได้ 2 โหมดทั้ง Standard และ Sport
และยังมีรุ่น 410 Comfort ที่วิ่งไกล 410 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งจะเปิดเผยสเปกพร้อมกับรุ่นท็อปยังตอบโจทย์นักเดินทางสมัยใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์
ความปลอดภัย Safety
ครบครันด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ L2 intelligent driving assistant ที่ประกอบด้วย เรดาร์, กล้อง, เรดาร์อัลตราโซนิกไม่ว่าจะเป็น
- ระบบล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Full-Speed Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Full Speed Traffic Jam Assist (TJA)
- ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Highway Assist (HWA)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning (FCW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกรถยนต์คันหลังชนขณะขับขี่ Rear Collision Warning (RCW)
- เตือนมุมอับสายตา Bilnd Spot Detection (BSD)
- แจ้งเตือนการสตาร์ทรถ Front Vehicle Starting Alert (FVSA)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adpative Highbeam Front Light
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Object Passing Warning
- เตือนการถอยหลังขณะออกจากช่องจอด Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- เตือนการออกตัวขณะออกจากช่องจอด Forward Crossing Warning (FCTA)
- เตือนขณะเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- เตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- ช่วยการจอดอัตโนมัติ Automatic Parking Assist (APA)
- เข้าจอดรถอัตโนมัติด้วยรีโมท One-touch Remote Parking (RPA)
- เตีอนแรงดันลัมยาง Tire Pressure Warning
- กล้องมองภาพรอบคัน AVM360 panoramic image
- ถอยหลังรถอัตโนมัติ Back Tracking (TBA)
NETA X มีสีภายนอกถึง 5 สีได้แก่ สีขาวมุก Pearl White, สีเทา Sky Gray, สีน้ำตาล Amber Brown, สีน้ำเงิน Glacier Blue และสีดำ Ultimate Black เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 25 กรกฎาคม โดยรุ่นเริ่มต้น 410 Comfort คาดการณ์ราคาเริ่มที่ 75x,xxx บาท และรุ่นท็อป 480 Smart คาดราคาเริ่มที่ 86x,xxx บาท
