หลังจากเปิดขายในจีนจนมียอดจองมากถึง 17,215 คัน หลังเปิดขาย 27 เมษายน สำหรับ Nissan N7 เก๋งซาลูนรุ่นใหม่พลังอีวี
Nissan N7 เก๋งไซซ์เดียวกับ Nissan TEANA หรือ Nissan ALTIMA พัฒนาจากต้นแบบ Nissan Epoch เพื่อคนที่ใช้ชีวิตในเมือง ชานเมือง ทีมีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์และเทคโนโลยี
มาพร้อมแนวคิดของการใช้ AI และ Internet of Things (IOT) รวมถึงผู้ช่วยส่วนตัวเสมือนจริงที่ช่วยทำให้ชีวิตง่าย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านการสื่อสารที่คำนึงถึงอารมณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
หน้าตาหรูด้วยกระจังหน้าทรงรูปตัววีแบบทึบหรือ V-Motion พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตชิ้นเดียวกับกระจังหน้า ส่วนบนจะเป็นแถบไฟ DRL แบบ LED เส้นสีขาวแนวนอนคาดยาวพร้อมชุดไฟหน้า LED รูปตัววีที่ให้จำนวนดวงมากถึง 710 ดวง ชัดมากขึ้นด้านล่างเป็นช่องระบายอากาศสีดำ
ด้านข้างมาในแนวกระจกโอเปร่าแบบไร้กรอบ Frameless หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ 1.82 ตารางเมตร กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย OLED แนวยาวจำนวนดวง 882 ดวง ติดตราตัวอักษร Nissan สีแดงสลับสีดำทั้งแผง ชุดกันชนหลังออกแบบเรียบง่ายดูดีกลมกลืนกับตัวรถและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/55R17 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45R19
เป็นการพัฒนาร่วมกันกับ Dongfeng จากพื้นฐานแพลตฟอร์ม Dongfeng Nissan’s new energy architecture โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ Cd 0.208 มิติตัวรถใหญ่ตามสูตรรถเก๋งตั้งแต่ความยาว 4,930 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,895 มิลลิเมตร ความสูง 1,487 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,915 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,837-1,875 กิโลกรัม พื้นฐานเดียวกับ Dongfeng eπ 007
ภายในยกมาจาก Dongfeng eπ 007 ทั้งมาตรวัดความเร็ว LCD สี 8.8 นิ้ว จอสัมผัสกลางขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วชัดแบบ 2.5K (2560 x 1440 พิกเซล) และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านทรงหัวตัดท้ายตัด ลำโพงรอบคัน 20 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 256 สีและที่ชาร์จมือถือไร้สายคู่กำลัง 50W ช่อง USB-Type C 3 จุด
ภายในจอสัมผัสระบบความบันเทิงที่รวดเร็วแม่นยำด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 และ 8295P พร้อมหน่วยความจำ 32GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB พร้อมลำโพง 14 จุด รวมจุดที่ติดตั้งบนแผงคอนโซลหน้าที่สามารถพับเก็บได้ 2 จุด
พร้อมเบาะนั่งแบบ Zero Pressure ออกแบบตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารพร้อมระบบปรับท่าทางแบบปรับได้จากการใช้ AI ซึ่งปรับเบาะตามอินพุตจากเซนเซอร์ 49 ตัว เบาะนั่งยังมีฟังก์ชันนวด 12 จุด สำหรับคนขับ และปรับยืดเบาะรองน่องขาได้สูงสุด 60 มิลลิเมตร ช่วยให้ขาสบายและรองรับได้อย่างเหมาะสม ปรับด้วยไฟฟ้าคู่หน้าด้านคนขับ 6 กับ 14 จุด ด้านคนนั่ง 4 กับ 8 จุด
มีช่องแช่เย็นที่อยู่ที่วางแขนใต้คอนโซลตรงกลางขนาด 5.8 ลิตร ด้านหน้าสามารถทำความเย็นเครื่องดื่มได้ที่อุณหภูมิติดลบ 6 องศาเซลเซียสในวันที่อากาศร้อน หรืออุ่นเครื่องดื่มได้ถึง 55 องศาเซลเซียสในช่วงอากาศเย็นกว่า และมีพื้นที่สัมภาระท้ายถึง 484-504 ลิตร
ด้านขุมพลังไฟฟ้ายกมาจาก Dongfeng eπ 007 จากสถาปัตยกรรมแรงดันแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า 400 V ที่เลือกได้ 2 แบบ ทั้งรุ่นเริ่มต้นด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP 58 kWh ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 305 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า TZ200XS3JD วิ่งไกล 525-540 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 506-521 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.8 วินาที
รุ่นท็อปด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP 73 kWh ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 305 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง TZ200XS3JD วิ่งไกล 625-635 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 603-613 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.8 วินาที
ทั้งคู่ชาร์จได้ทั้ง DC 10-80% ภายใน 19 นาที และ 30-80% ภายใน 14 นาที และชาร์จ AC มีระบบกันสะเทือนแบบแม็กเฟอร์สันที่ด้านหน้าและแบบมัลติลิงค์ที่ด้านหลัง มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Comfort/Standard/Sports/Custom/AI Exclusive พวงมาลัยไฟฟ้าเวอร์ชันล่าสุด DP-EPS จาก BOSCH ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตร ปรับน้ำหนักได้ 3 โหมดทั้ง Comfort/Standard/Sport
พร้อมระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) เลือกได้ 3 โหมดทั้ง weak/strong/adaptive มีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 6.6 kW ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
จากความร่วมมือของ Momenta ได้ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงในชื่อ Navigate on Autopilot บนทางต่างจังหวัดหรือทางหลวงโดย ระบบสามารถจัดการกับการหลบหลีกที่ซับซ้อนได้อย่างราบรื่น เช่น การผสานตัวรถให้อยู่ในเลนและการแซงในพื้นที่เมือง
ระบบจะเปลี่ยนเลนและนำทางในสถานการณ์เลี้ยวที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ ระบบยังตอบสนองได้อย่างราบรื่นเมื่อรถคันอื่นเปลี่ยนเลนโดยไม่คาดคิด ช่วยให้ปลอดภัยและอุ่นใจ พร้อมฟังก์ชันจอดรถอัตโนมัติช่วยจัดการกับสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น ที่จอดรถเอียงและแคบและรองรับการป้องกันอาการเมารถ และ ความปลอดภัยรอบคัน ADAS
Nissan N7 จาก Dongfeng Nissan เตรียมที่จะเปิดตัวที่ญี่ปุ่นเวอร์ชันพวงมาลัยขวาเร็วๆนี้ทางด้านเมืองไทยอาจพบกันในปี 2026
ที่มา CarNewsChina