เช็กลิสต์ 4 ข้อก่อนเลือกซื้อประกันรถยนต์
ก่อนเริ่ม ซื้อประกันรถยนต์ เรามาเช็กลิสต์ 4 ข้อที่ไม่ควรมองข้ามหากสนใจซื้อประกันรถยนต์ เพื่อให้ตัวเรานั้นเกิดความคุ้มค่ากับเงินในประเป๋าและเหมาะสมกับความคุ้มครองที่เรามองหามากที่สุด โดยจะมีอะไรบ้างสามารถอ่านได้ตามด้านล่างนี้เลย
1.เลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณ: ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ จำเป็นต้องทบกวนก่อนว่าคุณมีไลฟ์สไตล์การใช้รถยนต์แบบใด ขับรถในเมืองหรือออกต่างจังหวัด มีประสบการณ์ขับรถมานานแล้วหรือเพิ่งออกรถยนต์คันแรก ไปจนถึงอายุของรถยนต์ที่ใช้งาน เพราะข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นช่วยตัดสินใจได้อย่างดีว่าจะเลือกซื้อประกันรถยนต์แผนไหนดี
2.รายละเอียดความคุ้มครองต่างๆ: สำหรับใครที่ชอบความคุ้มครองแบบครอบคลุม การเลือกซื้อประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีรายละเอียดความคุ้มครองที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ
3.เช็คเบี้ยประกันรถยนต์: นอกจากความคุ้มครองและไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับเราแล้วนั้น อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลย คือเรื่องของเบี้ยประกันรถยนต์ ควรเลือกแผนประกันที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณของเรา และที่สำคัญคืออย่าลืมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่เราสนใจนั้น เป็นราคาต่อปีหรือต่อเดือนด้วย
4.ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันรถยนต์: ก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทซื้อประกันรถยนต์ควรศึกษาความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูรีวิวและคะแนนจากลูกค้าเก่า ศึกษาความพึงพอใจเกี่ยวกับประวัติการชดเชยและการบริการของบริษัทประกันรถยนต์ที่เราสนใจ
ซื้อประกันรถยนต์ ควรดูความคุ้มครองด้านใดบ้าง
เมื่อ ซื้อประกันรถยนต์ มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องให้ความสำคัญในด้านความคุ้มครองทั้งต่อตัวเราและรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น
1.ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ: ประกันความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุจะช่วยให้เราได้รับการชดเชยสำหรับค่าซ่อมแซมรถยนต์หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนรถยนต์ที่เสียหายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ควรตรวจสอบระยะเวลาที่คุ้มครองและรายละเอียดเกี่ยวกับการชดเชยในกรณีอุบัติเหตุต่าง ๆ
2.ความคุ้มครองต่อความสูญเสียจากการถูกขโมย: ประกันรถยนต์ควรรวมความคุ้มครองสำหรับความสูญเสียที่เกิดจากการถูกขโมย ซึ่งอาจรวมถึงการชดเชยในกรณีที่รถยนต์ถูกขโมยหรือสิ่งของภายในรถถูกทำลาย
3.ความคุ้มครองต่อความเสียหายจากภัยธรรมชาติ: ประกันรถยนต์ควรคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุ, น้ำท่วม และแผ่นดินไหวเป็นต้น ควรตรวจสอบเงื่อนไขการคุ้มครองและรายละเอียดเกี่ยวกับการชดเชยให้ครบถ้วน
4.ความคุ้มครองต่อความรับผิดต่อบุคคลภายนอก: ประกันรถยนต์ควรคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ในกรณีที่เราเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ทำให้ได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สินและร่างกาย สำหรับการเลือกซื้อประกันรถยนต์ เรื่องนี้ถือว่าจำเป็นมาก
5.ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้: ควรตรวจสอบว่าประกันรถยนต์มีการคุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้หรือเปล่า เพราะการเกิดไฟไหม้นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าขัดข้อง ระบบเชื้อเพลิงรั่ว หรือจากอุบัติเหตุเอง จึงถือว่าเรื่องไฟไหม้ควรอยู่ในความคุ้มครองของประกันรถยนต์ด้วย
ทำไมควรเลือกบริษัทซื้อประกันรถยนต์ Pocket by LMG Insurance
-
-
- เลือกจ่ายได้ตามแผนประกันที่ต้องการ: ให้คุณปรับแผนประกันตามความเหมาะสม ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้รถของคุณ สามารถเช็คเบี้ยประกันรถผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง ในราคาที่คุ้มค่า
- อู่และศูนย์ซ่อมได้มาตรฐานทั่วประเทศ: มีศูนย์ซ่อมและอู่ที่ได้มาตรฐานในเครือกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศไทย เลือกสถานที่ได้สะดวกสบายใกล้บ้านคุณ
- บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง: ไม่ต้องกังวลเมื่อเจอเหตุฉุกเฉิน กับบริการช่วยเหลือบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง เพียงโทรหาผู้เชี่ยวชาญผ่านทางเบอร์ 1790
- มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันรถยนต์ Pocket by LMG มีผู้เชี่ยวชาญด้านประกันที่พร้อมให้คำแนะนำ
-
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ Pocket by LMG Insurance คุ้มครองอะไรบ้าง
เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ Pocket By LMG ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสูงสุด ทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี พร้อมทั้งยังช่วยประหยัดเงินกับแผนที่ปรับได้ตามต้องการ อุ่นใจกับอู่และศูนย์ซ่อมกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศไทย
-
-
- กรณีชนแบบมีคู่กรณี:
-
ผู้ขับขี่: ให้ความคุ้มครองตัวรถ แต่จะไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ โดยมีจำนวนเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 บาท (รถจักรยานยนต์ 5,000 บาท)
คู่กรณี: กรณีเกิดอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
- กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี: ให้ความคุ้มครองเหมือนกับแบบมีคู่กรณี โดยเสียค่า Excess ตามความเสียหายนั้น ๆ
- กรณีไฟไหม้ หรือสูญหายจากการถูกโจรกรรม: ให้ความคุ้มครองในเรื่องของไฟไหม้ทั้งที่เกิดจากตัวรถเอง หรือเกิดไฟไหม้จากสาเหตุอื่น และจากการสูญหาย (ถูกโจรกรรม)
- คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ: ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว และภัยจากลูกเห็บ
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล:
-
ผู้ขับขี่: ออกค่ารักษาให้ตามที่จ่ายจริง ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด และค่าบริการอื่น ๆ
คู่กรณี: คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อคน และสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
- การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: ชดเชยสินไหมทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะ พิการ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- การประกันตัวผู้ขับขี่: กรณีถูกควบคุมตัวโดยมีสาเหตุจากการใช้รถยนต์และเกิดอุบัติเหตุ
-
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ของ Pocket by LMG Insurance คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองกรณีรถชนแบบมีคู่กรณี ไฟไหม้หรือสูญหาย ภัยธรรมชาติ และ ค่ารักษาพยาบาล เพราะแผนนี้จะไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี นอกเหนือจากนั้นจะเหมือนกับ “ประกันรถยนต์ชั้น 1” พร้อมอุ่นใจกับอู่ซ่อมในเครือกว่า 600 แห่งทั่วไทย
-
-
- กรณีชนแบบมีคู่กรณี:
-
ผู้ขับขี่: ให้ความคุ้มครองตัวรถ แต่จะไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
คู่กรณี: คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
- กรณีไฟไหม้ หรือสูญหายจากการถูกโจรกรรม: ให้ความคุ้มครองในเรื่องของไฟไหม้ทั้งที่เกิดจากตัวรถเอง หรือเกิดไฟไหม้จากสาเหตุอื่น และสูญหายจากการถูกโจรกรรม
- คุ้มครองจากการเสียหายจากภัยธรรมชาติ: ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว และภัยจากลูกเห็บ
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล:
-
ผู้ขับขี่: ให้ค่ารักษาไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด และค่าบริการอื่นๆ ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
คู่กรณี: ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย คุ้มครองไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
-
- การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ พิการ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- การประกันตัวผู้ขับขี่: กรณีถูกควบคุมตัวโดยมีสาเหตุจากการใช้รถยนต์และเกิดอุบัติเหตุ 300,000 บาท/ครั้ง
-
-
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ของ Pocket by LMG Insurance คุ้มครองอะไรบ้าง
เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป โดยจะคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น รวมถึงคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันด้วย แต่จะไม่ครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม การถูกโจรกรรม หรือรถยนต์สูญหาย
-
-
- กรณีชนแบบมีคู่กรณี:
-
ผู้ขับขี่: ให้ความคุ้มครองตัวรถ แต่จะไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
คู่กรณี: คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล:
-
ผู้ขับขี่: ให้ค่ารักษาไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด และค่าบริการอื่น ๆ ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
คู่กรณี: ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย คุ้มครองไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง
-
-
- การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ พิการ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- การประกันตัวผู้ขับขี่: กรณีถูกควบคุมตัวโดยมีสาเหตุจากการใช้รถยนต์และเกิดอุบัติเหตุ 300,000 บาท/ครั้ง
-
เมื่ออ่านรายละเอียดแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 แผนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และแผนประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะทำให้เปรียบเทียบได้ชัดขึ้นว่า ควรซื้อประกันรถยนต์ประเภทไหน ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง พร้อมทั้งก่อนทำการซื้อประกัน ควรเช็คเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับตัวของเรามากที่สุด
ไม่ว่าจะซื้อประกันรถยนต์ประเภทไหนก็วางใจ เพียงทำประกันรถยนต์กับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย อย่าง Pocket by LMG มีศูนย์และอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐานกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญสามารถปรับเลือกแผนประกันรถยนต์ได้ตามความต้องการ สามารถเช็คเบี้ยประกันซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ง่ายๆ มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มค่า หากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pocketbylmg.com