More

    HAVAL H6 HEV PRO รุ่นเริ่มต้นล็อตพิเศษเพียง 1.099 ล้านบาท

    ห่างหายไปนานสำหรับ HAVAL H6 HEV รุ่นเริ่มต้น PRO เอสยูวีสายสปอร์ตที่เคยได้รับการตอบที่ดีและเป็นรถที่ออปชันจัดเต็มลงตัวในราคาที่น่าสนใจ

    วันนี้ GWM ปัดฝุ่นนำ HAVAL H6 HEV รุ่น PRO กลับมาขายอีกครั้งตอบรับคำเรียกร้องของแฟนๆชาวไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการรับฟังเสียงของผู้บริโภค (User-centric) มาเป็นล็อตพิเศษโดดเด่นด้านความคุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งในครั้งนี้ได้กลับมาในราคาย่อมเยายิ่งกว่าเคย แต่ยังคงเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมายตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถมาพร้อมดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ดูล้ำสมัย ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยระบบอัจฉริยะมีฟังก์ชันหลากหลายทั้งเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) ไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาวพาดจากซ้ายจรดขวามาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยราวหลังคารถสีเงิน ในรุ่น PRO สิ่งที่ต่างจากรุ่น ULTRA คือล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 18 นิ้วยางขนาด 225/60 R18 มอบภาพลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง ไม่มีหลังคาซันรูฟ ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า LED ไม่มีระบบแฮนด์ฟรีในประตูท้ายไฟฟ้า 

    มีมิติตัวรถขนาดกว้างขวางตั้งแต่ความยาว 4,683 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร ความสูง 1,730 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 175 มม. นำหนักรถ 1,720 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 61 ลิตร

    HAVAL

    HAVALภายในโดดเด่นด้วยสไตล์ Minimalist อันเรียบง่ายแต่คงความหรูหราเน้นความกว้างขวางและสะดวกสบายที่ต่างจากรุ่นท็อป ULTRA ภายในสีดำล้วน ALL BLACK แฝงลายเส้นสีเงิน หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูงลดขนาดเหลือ 10.25 นิ้ว (รุ่น ULTRA 12.3 นิ้ว) เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า ลำโพง 8 จุดรอบคันพร้อม Treble Woofer และ DTS ไม่มีจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน ไม่มีปุ่ม VIP ปรับเบาะโดยสารด้านหน้าคนนั่งสำหรับคนนั่งหลัง และไม่มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย

    ส่วนออปชันอื่นๆยังคงเดิมทั้ง แผงมาตรวัดดิจิตอลลอยตัว HD Multi Information Display 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านพร้อม Paddle Shift กุญแจ Smart Key ระบบ Push Start เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา และกรองอากาศ PM2.5 (CN95 filter) ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient Light สร้างบรรยากาศที่เข้มสปอร์ต การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และการควบคุมสั่งงาน ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Telematic) ผ่าน GWM แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง ปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ

    ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเบนซินเทอร์โบแปรผันซูเปอร์ชาร์จ VGT รหัส GW4B15 GDIT EVO ให้กำลัง 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยเกียร์ DHT มี 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน) รองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลายและกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และช่วยประหยัดน้ำมัน เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้ง โหมดประหยัด ECO, โหมดมาตรฐาน Normal, โหมดสปอร์ต Sport, โหมดพื้นหิมะ Snow ช่วงล่างปรับแต่งใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มาพร้อมความสบายสำหรับผู้โดยสารตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว บนพื้นฐานระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง

    มาพร้อมกับฟังก์ชันอัจฉริยะสำหรับการขับขี่อันล้ำสมัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย ด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย Driver Assistance and Safety Systems มาครบทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน, ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ช่วยลงทางลาดชัน (HDC), ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA), ตรวจความดันลมยาง (TPMS), ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน และเซนเซอร์กระยะการจอดรถหน้า 2 จุด และหลัง 4 จุด

    ไม่มีระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA), ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง, ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK), ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW), ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-RCTB) และช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)HAVALHAVAL H6 HEV PRO มาแบบจำนวนจำกัดจะมีให้เลือกใน 3 เฉดสี ได้แก่ เทา ดำ และขาว จับคู่กับภายในสีดำ สร้างความรู้สึกสปอร์ต ในราคาเปิดตัวพิเศษเพียง 1,099,000 บาทเท่านั้น มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน (เมื่อดาวน์ 25%) ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง ระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive–GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี สำหรับการรับประกันคุณภาพ มอบการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทางHAVALสำหรับแฟน ๆ ที่สนใจสั่งซื้อสามารถสั่งซื้อคูปองมัดจำในราคา 5,000 บาท ผ่านร้าน GWM Flagship Store บนแพลตฟอร์มของ Lazada ได้ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 23.59 น. โดยลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านทางช่องทางออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และโมบายแบงก์กิ้ง เสมือนหนึ่งการสั่งซื้อสินค้าจาก Lazada โดยทั่วไป หลังจากคำสั่งซื้อสำเร็จพนักงานของ GWM รวมถึงทีมงาน iAM และ/หรือ GWM พาร์ทเนอร์สโตร์ จะติดต่อกลับภายใน 48 ชั่วโมง (ไม่รวมวันหยุด)

    เพื่อยืนยันรายละเอียดคำสั่งซื้อรวมถึงนัดหมายการจัดส่งรถล่วงหน้า ณ พาร์ทเนอร์ สโตร์ที่ลูกค้าสะดวก หลังจากการยืนยันสำเร็จ ลูกค้าจะได้รับอีเมลยืนยันคำสั่งซื้อสำหรับคูปองมัดจำภายใน 48 ชั่วโมง (ไม่รวมวันหยุด) เช่นเดียวกัน ซึ่งอีเมลดังกล่าวจะเป็นหลักฐานสำหรับการชำระมัดจำของลูกค้าเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เมื่อกระบวนการการสั่งซื้อเสร็จสิ้นสมบูรณ์และได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงิน (ถ้ามี) GWM จะทำการจัดส่งรถให้กับลูกค้าได้ในทันทีตามที่นัดหมาย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีของรถที่ลูกค้าเลือกและปริมาณสต๊อกสินค้าที่มีอยู่ในขณะนั้น)

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts