Rennsport Reunion 7 กำลังมีกิจกรรมอยู่ในแคลิฟอร์เนีย และปอร์เช่กำลังเฉลิมฉลองโอกาสนี้ด้วยยานยนต์สุดพิเศษ แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับงานนี้ นี่เป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์การแข่งรถของปอร์เช่ นั่นเป็นสาเหตุที่ 911 GT3 R rennsport ถูกเผยโฉมในงานนี้
Porsche เรียกรถรุ่นนี้ว่า 911 GT3 R rennsport ด้วยตัว R ตัวพิมพ์เล็ก ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรชื่อรุ่นรถง ซึ่งไม่มีอะไรเป็นตัวพิมพ์เล็กเลย ส่วนทางด้านตัวรถ ได้รับการตกแต่งพิเศษ ตรงใต้ปีกหลังที่ใหญ่กว่าเดิม (ซึ่งต้องใช้เหล็กค้ำยันเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับแรงกดที่มันสร้างขึ้น) ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์หกสูบแบนขนาด 4.2 ลิตรแบบดูดอากาศตามธรรมชาติ โดยยืมมาจากรถแข่ง GT3 แต่ไม่ได้สร้างจากข้อกำหนดของการแข่งขัน GT3 ดังนั้นจึงมีกำลัง 611 แรงม้า เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งให้ใช้เชื้อเพลิง E25 และมีลูกสูบและเพลาลูกเบี้ยวสั่งทำพิเศษ อัตรากำลังอัดสูงขึ้น และเราก็ได้แต่จินตนาการว่าเสียงจากลูกสูบ 9,400 RPM เป็นอย่างไร น่าจะดังไปได้ไกลหลายกิโลเมตร
อย่างที่เห็นในภาพ ความเดือดของ 911 GT3 R rennsport ไม่หยุดอยู่แค่เรื่องเสียง ถ้าคุณมีโอกาสได้นั่งที่คนขับ คุณจะสามารถเห็นการทำงานของชิ้นส่วนกลไกต่างๆ ทางด้านข้าง ซึ่งรวมถึงระบบไอเสียซึ่งสามารถเปิดได้สุดหรือติดตั้งด้วยท่อไอเสียและเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาสำหรับใช้กับสนามแข่งที่มีข้อจำกัดเรื่องเสียงรบกวน กล่องเกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีดจาก GT3 R ที่ได้รับการดัดแปลงเล็กน้อย โดยหมุนแค่ล้อหลังเท่านั้น
เมื่อพูดถึงล้อ 911 GT3 R rennsport ติดตั้งล้อขนาด 18 นิ้วแบบพิเศษจาก BBS พร้อมยางมิชลินที่ทำมาเพื่อรถคันนี้โดยเฉพาะ พวกเขาติดตั้งเข้ากับแชสซีและระบบกันสะเทือนที่ส่งตรงจากรถแข่ง GT3 แม้ว่าปอร์เช่จะจัดเตรียมเรนสปอร์ตมาให้จากโรงงานก็ตาม
ในส่วนของโครงสร้างของตัวรถ Porsche กล่าวว่า มีเพียงฝากระโปรงและหลังคาเท่านั้นที่ใช้ร่วมกับ GT3 R ส่วนหน้าได้รับแรงบันดาลใจจากนักแข่ง ส่งต่อมาที่ช่องระบายอากาศ แผงหน้า และครีบที่เปลี่ยนรูปทรงใหม่ เมื่อมองย้อนกลับไป คุณจะไม่เห็นกระจกมองข้าง แต่เปลี่ยนเป็นกล้องที่แสดงผลในห้องโดยสารของ Rennsport เราได้พูดถึงปีกหลังไปแล้ว ซึ่งชวนให้นึกถึงรถในตำนานอย่าง 935/77 ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน ในความเป็นจริงแล้ว Porsche มองว่า 911 GT3 R rennsport เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก 935 ในยุคปัจจุบัน
ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของสามารถเลือกสีภายนอกได้ถึง 7 สี และดีไซน์ที่แตกต่างถึง 3 แบบ เพื่อให้เข้ากับคอลเล็กชั่นในการาจของตัวเอง และต้องรีบหน่อย เพราะมีจำนวนจำกัดแค่ 77 คันในโลก ราคาเริ่มต้นที่ 1,046,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 38 ล้านบาท
Source : Motor1
