เมื่อคนส่วนใหญ่อายุ 75 ปี การมีชีวิตอยู่และมีสุขภาพที่ดีก็เพียงพอแล้วที่เป็นของขวัญในทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม สำหรับวันเกิดปีที่ 75 ของ Porsche ก็ได้มอบของขวัญวันเกิดให้กับตัวเอง ด้วยไฮเปอร์คาร์ที่จะเป็นรถโปรดักชันที่เร็วที่สุดที่เคยมีมาและใช่ มันเป็นรถ EV หรืออย่างน้อยที่สุด ถ้า Porsche ตัดสินใจสร้างมันขึ้นมา นี่คือ Mission X ซึ่งยังคงเป็น Concept Car อยู่ในตอนนี้
ความเร็วสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่? จะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ปอร์เช่ได้พัฒนาอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักอย่างน้อย 1 แรงม้าต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม จากสถาปัตยกรรมใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 900 โวลต์ หากเราใช้ไฮเปอร์คาร์คันสุดท้ายของปอร์เช่เป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่าง Porsche 918 Spyder ในปี 2015 ที่มีน้ำหนักตัว 1,600 กก. ก็จะทำให้มีแรงม้าสูงถึง 1,600 แรงม้า นั่นเกือบสองเท่าของสิ่งที่ Spyder วางไว้ เมื่อมันกลายเป็นรถโปรดักชั่นคันแรกที่วิ่งรอบสนาม Nurburgring ได้ภายในเวลาไม่ถึง 7 นาที แต่นั่นก็เป็นการคาดเดา แต่ระดับกำลังดังกล่าวทำให้ Porsche รุ่นนี้เป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีพละกำลังที่มากกว่า 919 Hybrid Evo รุ่นที่ใช้ในสนามแข่ง
Porsche เปิดตัว Mission X Concept ในวันครบรอบ 75 ปีของบริษัท และในวันครบรอบ 100 ปีของ 24 Hours of Le Mans มันมีความเชื่อมโยงอย่างเป็นธรรมชาติ ในเรื่องการออกแบบของ Mission X ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Le Mans โดยมีประตูที่เปิดขึ้นและไปข้างหน้า เช่นเดียวกับ 917 รุ่นคลาสสิก นั่นเป็นเพียงไฮไลท์หนึ่งของการออกแบบที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งรวมถึงกระจกทรงโค้งตั้งแต่หลังคาจนถึงประตู ห้องโดยสารที่ได้รับการปกป้องด้วยโครงภายนอกคาร์บอนไฟเบอร์ รูปทรงที่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ชวนให้นึกถึงต้นแบบของ Le Mans ในสมัยก่อน แต่นำมาปรับใช้เพิ่มความทันสมัยเข้าไป
ภายในโดมนั้นค่อนข้างโดดเด่นเช่นกัน ด้วยเบาะนั่งสีตัดกันสำหรับคนขับและผู้โดยสารพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด มีการย้อนยุคนิดหน่อยกับแผงหน้าปัดผู้โดยสารมีช่องสำหรับนาฬิกาจับเวลาแบบอะนาล็อกหรือดิจิตอล เหมือนกับรุ่น 959
ถึงแม้จะมีกำลังเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ แต่ Mission X นั้นค่อนข้างมีขนาดกะทัดรัด ความยาวรวม 4,495 มม. กว้าง 1,998 มม. ขนาดเล็กกว่า 918 Spyder 152 มม. และกว้างกว่า 50 มม. และฐานล้อมีขนาดเท่ากัน ส่วยขุมพลังขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเหมือน Taycan แต่ Porsche ได้ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ไว้ด้านหลังเบาะนั่ง ซึ่งเรียกว่ารูปแบบ “e-core” ซึ่งหมายถึงการสร้างไดนามิกการควบคุมแบบเดียวกับรถยนต์เครื่องยนต์วางกลาง
แต่พวกเขาจะสร้างมันขึ้นมาหรือไม่? Oliver Blume CEO ของปอร์เช่ ตอบคำถามอย่างกว้างๆ ว่า “ในช่วงเดือนหน้า เราจะพิจารณาสร้างมัน ยังไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆ เพราะมี Concept อื่นที่ต้องทำ แต่เป็นโอกาสที่ดี”
เราได้เห็นระดับพลังและสมรรถนะที่แรงสุดจากแบรนด์อย่าง Rimac และแม้กระทั่งในรถซีดานที่ผลิตโดย Tesla และ Lucid ดังนั้นหาก Porsche จะสร้างไฮเปอร์คาร์เจนเนอเรชั่นต่อไปเพื่อสร้างความประทับใจ ตัวเลขแรงม้าจะต้องเห็นเป็นตัวเลข 4 หลัก ความคิดเกี่ยวกับขุมพลังแบบนั้นรวมกับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของรถแข่งของ Porsche นั้นคุ้มค่าที่จะรอคอยอย่างแน่นอน และถ้าได้เห็นตัวจริงมันก็น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ?
