ถึงแม้เมืองไทยจะปิดโรงงานประกอบ SUBARU Forester เจนที่ 5 สิ้นปีนี้แต่ความนิยมที่มีต่อเจ้าป่าจอมลุยนั้นยังมีอยู่และพร้อมสำหรับการมาของเจนใหม่
ทางด้านญี่ปุ่นก็ยังคงจำหน่ายต่อไปแม้จะเป็นปลายโมเดลล่าสุดเปิดตัวรุ่นพิเศษหวังพิชิตใจสาวกซูบี้กับSubaru ForesterUrban Edition ด้วยการนำรุ่น Advance มาตกแต่งพิเศษ
ภายนอก Exterior
หรูสง่าด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมตกแต่งเข้มด้วยสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้า ที่เปิดประตูดึงก้านแบบสีเดียวกับตัวรถ กรอบไฟตัดหมอกหน้า LED มาแบบสีดำด้าน และล้ออัลลอยลายหรู 5 ก้านคู่ปัดเงาขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R18 และราวหลังคาสีดำเป็นออปชันเสริม
พร้อมออปชันหล่อเดิมๆทั้งกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมคิ้วใต้กันชนหน้าสีเงิน ไฟหน้ากับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime มาในแบบ LED horizontal พร้อมคิ้วขอบล้อสีดำด้านกาบบันไดด้านข้างสีดำตัดสีเงิน พร้อมไฟท้าย LED รูปตัว C หรือ C-shaped รับกับดิฟฟิวเซอร์หลังที่กันชนหลังสีดำผสมกาบสีเงินพร้อมสปอยเลอร์หลังสีดำติดไฟเบรกดวงที่ 3 และเสาอากาศครีบฉลามสีดำ
ภายใน Interior
เหมือนเดิมทั้งแผงคอนโซลหน้าเด่นด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว จออเนกประสงค์เหนือคอนโซลกลางแบบ LCD 6.3 นิ้ว สำหรับบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง สภาวะการขับขี่ และข้อมูลการบำรุงรักษารถ ฯลฯ จอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 8 นิ้วกับลำโพงคุณภาพ 6 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ DUAL-ZONE ช่องลมสำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนโซลกลาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้นมากสุด 1,775 ลิตร พอร์ตชาร์จ USB ประตูท้ายไฟฟ้าพาวเวอร์ด้านหลัง ช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อกประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียวและไฟส่องภายในแบบ LED ที่ ไฟห้องเก็บสัมภาระแบบและไฟบนบริเวณด้านท้าย
ขุมพลัง Performance
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน e-Boxer รหัส FB20 direct injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS) ให้กำลัง 150 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 16.7 แรงม้า แรงบิด 66 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่มีความจุ 13.5 kWh เมื่อทำงานร่วมกันทำแรงม้ารวม 156 แรงม้า เมื่อเข้าโหมด EV และ Motor Assist วิ่งไกลสุด 1.6 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Lineartronic CVT พร้อมขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive แบบ Active Torque Split AWD s พร้อม X-Mode ช่วยในส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจ และเร้าใจขึ้นด้วยโหมดการขับขี่ SI-Drive ทั้งโหมด Intelligent และ Sport
ระบบความปลอดภัย Safety
เพิ่ม Eyesight Safety Plus เพิ่มมุมมองกว้างขึ้นกับกล้องรอบคัน 360 องศา ในส่วนกล้องด้านหน้า และกระจกมองหลังอัจฉริยะ Smart rear view mirror และความปลอดภัยคับคั่งทั้ง พร้อม Eyesight 4.0 เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงยกระดับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาและถูกติดตั้งไว้ใกล้ตำแหน่งของกระจกมองหลัง สามารถตรวจจับวัตถุได้ในวงกว้างและแม่นยำ มอบความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับขี่โดยมีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้
- Autonomous Emergency Steering บังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน
- Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ
- Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention เตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ
- Pre-Collision Braking ช่วยเบรกอัตโนมัติ และ Adaptive Cruise Control ยังถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่ ตามสี่แยกจราจร จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พัฒนากล้องสเตอริโอคู่หน้าให้มีระยะตรวจจับวัตถุกว้างกว่าเดิม (จากมุมซ้ายถึงมุมขวา) ถึงเกือบสองเท่า รวมทั้งจากมุมบนถึงมุมล่าง จากมุมซ้ายถึงมุมขวา กล้องจะตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้กว้างและไกลขึ้น อันช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้มาก ตรวจจับวัตถุได้ไม่เพียงเฉพาะในเลนที่อยู่เท่านั้น ยังกว้างไปครอบคลุมเลนข้างๆด้วย ตัวอย่างเช่น รถในเลนสวน และคนข้ามถนนจากทั้งทิศทางซ้ายและทิศทางขวาของสี่แยกจราจร
- Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD) ตรวจจับวัตถุด้านหลัง เรดาร์เซนเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ
- High Beam Assist (HBA) ไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
เจ้าป่ารุ่นพิเศษนี้ขายญี่ปุ่นแบบจำนวนจำกัดในราคา 3,300,000 -3,355,000 Yen หรือราว 745,000-759,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าแต่ถ้านำเข้ามาราคาจะอยู่ที่ 1,399,000-1,425,000 บาท
ที่มา Carwatch
