TANK แบรนด์รถลุยในเครือ GWM พร้อมแล้วสำหรับการทำตลาดโลกประเดิมด้วย TANK 300 กับ TANK 500 โดยประเทศไทยกับออสเตรเลีย
เป็นสองประเทศแรกที่ได้สัมผัสก่อนใครในเวอร์ชันพวงมาลัยขวาทั้ง TANK 500 HEV จะเปิดตัวในไทยปีหน้าพร้อมการประกอบในไทยเป็นครั้งแรกของแบรนด์ TANK นอกประเทศจีน แต่ว่า ออสเตรเลีย ตัดหน้าไทยขาย TANK เป็นครั้งแรกของโลกในเวอร์ชันพวงมาลัยขวา กับ TANK 300 HEV เอสยูวีทรงเหลี่ยมสไตล์โมเดิร์นมาพร้อมรูปทรงสง่างาม ด้วยหน้าตาคล้าย JEEP Wrangler ดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65 R17 กับขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60R18 ไฟหน้า Matrix LED ทรงกลมพร้อมไฟ LED Daytime กระจังหน้าขนาดใหญ่แนวนนอน 3 เส้น พร้อมโลโก้ TANK กันชนหน้าทรงเข้มพร้อมไฟตัดหมอกหน้า ราวหลังคา คิ้วขอบล้อ ที่เปิดประตู กระจกมองข้างตกแต่งสีเข้มทั้งหมด ด้านท้ายดีไซน์ตั้งตรงพร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ห้อยยางอะไหล่ไว้ดูมีเอกลักษณ์ดีตามสไตล์ออฟโรดและไฟท้าย LED แนวตั้งในร่าง 5 ประตู กับความยาว 4,760 มม. ความกว้าง 1,930 มม. ความสูง 1,903 มม. ฐานล้อ 2,750 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 224 มม. น้ำหนักรถ 2,110-2,150 กก. ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร มุม approach angle หรือมุมเงย 33 องศา และมุม departure angle หรือมุมจาก 34 องศา
ภายในหรูเทียบเท่ารถยุโรป แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ร่วมสมัยช่องแอร์ดีไซน์เดียวกับ Mercedes-Benz มาตรวัด Full LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัส LCD ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเชื่อมต่อ พอร์ต USB ด้านหน้าและด้านหลัง ลำโพงคุณภาพรอบคัน 9 จุดจากค่าย Infinity เบาะนั่งหุ้มหนัง NAPPA leather ตัดเย็บประณีต ปรับไฟฟ้าสูงสุด 6-8 ตำแหน่ง เบาะหลังพับได้ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของ เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา และที่ขาดไม่ได้กับไฟสร้างบรรยากาศภายในมากถึง 64 สี Ambient light
เครื่องยนต์ที่ทรงพลังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ภายในเมืองได้อย่างครบครันและการผจญภัยของผู้ขับขี่ขาลุยอย่างลงตัวกับ เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร GW4C20NT ให้กำลังรวม 244 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตันเมตร แต่เมื่อทำงานร่วมกันกับชุดแบตเตอรี่ จะได้แรงม้ารวม304 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม. ทำได้ 7.9 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ทำงานร่วมบนพื้นฐานแกร่งแชสซีส์ขั้นบันไดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time และ กระจายกำลังล้อทั้งสี่ หรือ torque-on-demand พร้อมล็อกเฟืองท้ายแบบกลไกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมโหมด crawl mode
กับความปลอดภัยรอบคันทั้ง เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous emergency braking เตือนการออกนอกเลน Lane-departure warning ช่วยรักษาช่องทางเดินรถ Lane-keep assist จดจำเครื่องหมายจราจร Traffic sign recognitionเตือนรถสวนระหว่างถอยหลังพร้อมเบรก Rear cross-traffic alert with brake ควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ Adaptive cruise control ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด รวมตรงกลางห้องโดยสาร กล้องรอบคัน Surround-view camera with ‘Transparent Chassis Function’
TANK 300 HEV จำหน่ายกันสองรุ่นทั้งรุ่น LUX กับ ULTRA มีทั้งหมด 5 สีทั้ง สีส้ม Dusk Orange สีแดง Lunar Red สีดำ Crystal Black สีเทา Fossil Grey และสีขาวมุก Pearl White ในราคาเริ่มต้น $55,990- $60,990 หรือราว 1,309,000-2,269,000 บาท ส่วนเมืองไทยคาดพบกันปีหน้าหลังการเปิดตัว TANK 500 HEV
ที่มา Carexpert
