หลังจากเปิดตัว Toyota Urban Cruiser ตั้งแต่ปีกลายเสริมตลาดจากเดิมจะมี Toyota bZ4X ล่าสุดต้อนรับสมาชิกใหม่เข้ามาเติมเต็มนั่นคือ Toyota C-HR+
Toyota C-HR+ คันนี้ไม่ได้นำพื้นฐานของ C-HR เจนปัจจุบันถอดเครื่องดัดแปลงเป็นอีวีแต่เป็นการพัฒนาใหม่หมดจากต้นแบบ Toyota bZ Compact SUV ที่เคยโชว์เมื่อ 3 ปีก่อนมาขัดเกลางานดีไซน์ให้ออกมาเด่นนั่นเอง
เริ่มที่ กระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ทึบสีดำมีปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์สีเดียวกับตัวรถพร้อมตราโลโก้สามห่วงพร้อมไฟหน้า LED สองข้างทรงดุมีไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C ในโคมเดียวกันรับกับกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
ด้านข้างดีไซน์แนวตั้งหลังคารถที่ลาดลงแบบสีดำ ที่เปิดประตูหลังเรียบเนียนติดในตำแหน่งเดียวกับเสา C ที่เปิดประตูคู่หน้าดีไซน์ดึงก้านสีเดียวกับตัวรถ มีเสาอากาศครีบฉลามติดมาให้ ด้านท้ายมีไฟท้าย LED แนวยาวครอบทับฝาท้ายอย่างลงตัว โดยตัวรถมีขนาดเล็กกว่า Toyota bZ4X แต่ใหญ่กว่ารุ่น C-HR เครื่องยนต์จากแพลตฟอร์ม e-TNGA ดังนี้ ความยาว 4,520 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,750 มิลลิเมตรและระยะต่ำสุดจากพื้น 110 มิลลิเมตร
ภายในคล้ายต้นอบบตั้งแต่ชุดแผงประตูและคอนโซลหน้าออกแบบมาในตัว U ล้อมรอบให้ดูความต่อเนื่องและชัดเจนตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงสหกรณ์ยกมากจากรุ่น bZ4X พร้อมมาตรวัดดิจิทัลและจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว สองอยู่ตำแหน่งใกล้กันจนไม่ต้องละสายตาอีกคันเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ล้ำสมัย ชุดคอนโซลกลางพร้อมที่ท้าวแขนดีไซน์เล่นระดับ
มีที่ชาร์จมือถือไร้สายถึง 2 ช่อง พร้อมช่องเสียบ USB เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอัตโนมัติซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก คันเกียร์ขนาดเล็กกว่ามาก เบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่วางสัมภาระก่อนพับเบาะมากถึง 416 ลิตร
ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้าล้วนด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกด้วยรุ่น Standard Range พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 57.7 kWh ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า รุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 77 kWh ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า
ปิดท้ายด้วยรุ่น AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังรวม 343 แรงม้า จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 77 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.2 วินาที
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 600 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 706 กิโลเมตร (NEDC) ตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นรองรับการชาร์จทั้งชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 150 kW และชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และพี่โตยังเคลมว่าตัวแบตเตอรี่จะคงประสิทธิภาพไว้ได้อย่างน้อย 70% แม้จะใช้งานไปแล้ว 10 ปี เบื่องต้น Toyota C-HR+ เตรียมขายที่ยุโรปบางประเทศภายในสิ้นปี 2025 และขายทั่วกลุ่มยุโรปปลายปีหน้า
ที่มา Toyota