และแล้วเก๋งหรูยอดนิยมของคนทั้งโลกสำหรับ Toyota Camry เจเนอเรชันที่ 9 ได้เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์คัมรี่ในไทยที่จำหน่ายรุ่นฟูลไฮบริดเท่านั้น
ภายนอก Exterior
การออกแบบถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “SEDAN TO THE CORE” ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญและพัฒนาต่อยอดในจุดแข็งต่างๆด้วยการใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty ด้วยกระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตราโลโก้สอดรับกับชุดไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED รูปตัวเลขเจ็ดและไฟเลี้ยววิ่ง กันชนหน้าออกแบบให้มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่และมีช่องเว้ามุมกันชนซ้าย-ขวาแบบสปอร์ตไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างยังมีความคล้ายกับ Toyota Camry เจนที่ 8 ทั้งเส้นสายข้างประตู กระจกมองข้างทรงสปูน คิ้วขายล่าง ไฟท้าย Full LED ดีไซน์ทันสมัยรูปตัวซีพร้อมคิ้วกรอบป้ายทะเบียนสีเดียวกับตัวรถติดตัวอักษร Camry มีตรา HEV กันชนหลังออกแบบให้มีความสปอร์ตและด้านข้างเล่นระดับอย่างดูดีและมีลิ้นสปอยเลอร์ในตัว พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ 2 บาน ในรุ่น HEV Premium และรุ่น HEV Premium Luxury และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/55R17 ในรุ่น HEV Smart และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/45R18 ในรุ่น HEV Premium และรุ่น HEV Premium Luxury ตัวรถยังคงสร้างจากพื้นฐาน TNGA-K เช่นเดิม
- ความยาว 4,920 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,840 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,445 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,585 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายใน Interior
หรูขึ้นดูดีออกแบบพิเศษให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง กว้างขวาง สบายตา บริเวณที่นั่งฝั่งผู้ขับ ถูกออกแบบให้มีลักษณะแบบ Cockpit ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงในขณะขับ วัสดุภายในคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างประณีต เรียบง่ายแต่ทันสมัย
พร้อมออปชันมากมายทั้งมาตรวัดแบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้วในรุ่น HEV Premium และ 12.3 นิ้ว ในรุ่น HEV Premium และรุ่น HEV Premium Luxury และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto พร้อม T-Connect อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำและเลื่อนอัตโนมัติขณะเข้า-ออกจากตัวรถในรุ่น HEV Premium Luxury ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า ม่านบังแดดประตูหลัง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน ปรับอิสระแยกซ้าย ขวา และหลัง ในรุ่น HEV Premium Luxury ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง ในรุ่น HEV Premium Luxury และ 6 จุดในรุ่น HEV Smart และ HEV Premium ช่องเสียบ USB Type-C รวม 4 จุด (หน้า 2 จุด หลัง 2 จุด) กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์ ในรุ่น HEV Premium และ HEV Premium Luxury เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางทุกรุ่น ในรุ่น HEV Premium Luxury มาพร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้าและ Seat Ventilator เบาะนั่งผู้ขับพร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งด้านข้างพนักพิง เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงไฟฟ้า แผงควบคุมระบบสัมผัสแบบดิจิทัล Capacitive Touch Controller
พื้นที่สัมภาระด้านท้าย 500 ลิตร ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light บริเวณคอนโซลกลางและที่พักเท้าด้านหน้า พร้อมโทนสีภายในให้เลือก 2 โทนสี คือ Black Interior และ Yellow Brown Interior พิเศษเฉพาะรุ่น HEV PREMIUM LUXURY โดยาภายนอกมีทั้งสีเงิน Precious Metal และสีขาว Platinum White Pearl
สมรรถนะ Performance
เร้าใจด้วยเบนซิน Dynamic Force Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-I รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 186 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหน้าเพลาหน้าซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร รุ่น 1VM โดยให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีแรงดันไฟฟ้า 251.6 V ความจุไฟฟ้า 4 Ah (1.006 kWh)
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมถึง 227 แรงม้า รองรับน้ำมัน E20 จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift โหมดการขับขี่ Drive Mode Select (DMS) ให้เลือกทั้ง Sport, Eco, Normal และ EV ประหยัดน้ำมัน 25 กิโลเมตรต่อลิดร
มาพร้อมประโยชน์มากมายจาก TNGA เช่น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ลดอาการโคลงตัว ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone Suspension โครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง รองรับแรงบิด เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนนพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ที่ให้วงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ความปลอดภัย Safety
พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ในทุกรุ่นย่อย
- Blind Spot Monitor (BSM) แจ้งเตือนมุมอับสายตา
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง
- Pre-Collision System with Pedestrian Detection (PCS) เตือนการชนด้านหน้า
- Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) แบบ All Speed แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า
- Parking Support Brake (PKSB) ช่วยเตือนขณะจอดรถพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ
- Lane Departure Alert with Steering Assist (LDA) ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมฟังก์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ
- Lane Tracing Assist (LTA) ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง
- Auto High Beam (AHB) ปรับไฟสูงอัตโนมัติลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน
- Safe Exit Assist (SEA) ป้องกันการออกจากรถ ขณะมีรถแล่น
- Tire Pressure Monitoring system (TPMS) แจ้งเตือนลมยาง
- สัญญาณการเตือนระยะการจอดรถรวม 8 จุด (หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด)
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหลัง
- สัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal (ESS)
- ระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Control (VSC)
- ป้องกันการลื่นไถล Traction Control System (TRC)
- ออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist Control (HAC)
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุดรวมหัวเข่าดด้านคนขับ
- กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) ในรุ่น HEV Premium และ HEV Premium Luxury
- กล้องมองภาพด้านหลังในรุ่น HEV Smart
- กล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ด้านหน้า ในรุ่น HEV Premium และ HEV Premium Luxury
Toyota Camry มาพร้อมสีภายนอกถึง 4 สี ทั้งสีเงิน Precious Metal ใหม่, สีเทา Cement Gray Metallic ใหม่, สีขาว Platinum White Pearl, สีดำ Attitude Black Mica และมี 3 รุ่นย่อยให้เลือก สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 10-31 ตุลาคม มาพร้อมราคาพิเศษ
- รุ่น HEV PREMIUM LUXURY ราคา 1,789,000 บาท (ราคาปกติ 1,809,000 บาท)
- รุ่น HEV PREMIUM ราคา 1,639,000 บาท (ราคาปกติ 1,659,000 บาท)
- รุ่น HEV SMART ราคา 1,455,000 บาท (ราคาปกติ 1,475,000 บาท)