หลังเปิดตัวที่ญี่ปุ่นไปตั้งแต่ปีกลายสำหรับ Toyota Crown Sport RS มาพร้อมพลังไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดที่ล่าสุดเปิดตัวรุ่นพิเศษเอาใจสาวกตรามงกฎกับ Toyota Crown Sport RS THE LIMITED-MATTE METAL
ภายนอก Exterior
ด้วยการนำพื้นฐาน Toyota Crown Sport RS Plug In Hybrid มาตกแต่งเข้มทั้งคันด้วยสีภายนอกพิเศษสีเทาด้านพร้อมเคลือบด้วยสารเคลือบด้านพิเศษ (TM Coat) เพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา
นอกนั้นคงเดิมไม่ว่าจะเป็นตรามงกฎที่ขอบฝากระโปรงหน้า ไฟหน้าเป็นแบบ LED 3 ดวงและ Bi-Beam LED ดวงเดียวแบบ Characteristic daylight กระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ขอบสีดำพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตคิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำ คิ้วขอบล้อสีดำลงตัว
ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED เส้นเดียวแนวยาวที่มีทั้ง ไฟเบรก ไฟท้ายหลัก ไฟเลี้ยว และไฟถอยในโคมเดียวกัน รับกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถเสริมลิ้นกันชนหลังขนาดใหญ่สีดำติตรา PHEV ท้ายรถ และช่องเสียบ AC DC ด้านหลังฝั่งขวาของตัวรถและล้ออัลลอยขนาดใหญ่สุด 21 นิ้ว สีดำด้าน หุ้มยาง 235/45R21
จากพื้นฐาน TNGA-K ในร่างเอสยูวีทรงสปอร์ตตัวรถใหญ่โตสมฐานะตั้งแต่
- ความยาว 4,720 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,570 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,770 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 160 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ภายใน Interior
ภายในพิเศษด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ติดตราโลโก้ตรามงกุฎหุ้มหนังตกแต่งขอบสีทองใต้ปุ่ม ชุดแต่งสีทองบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้าแนวยาวและช่องแอร์ มาตรวัดดิจิทัลสีแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้วแบบเลเซอร์ และกุญแจดิจิทัลจากแอปเฉพาะบนสมารท์โฟนให้ความสะดวกในการล็อก-ปลดล็อกรถ
พร้อมออปชันเดิมทั้งจอทัชสกรีน 12.3 นิ้ว ควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพง มากถึง 11 จุด จาก JBL เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวาและด้านหลังหนึ่งจุด
พิแศษมีช่องปลั๊กเสียบแรงดันไฟฟ้าสูงสุด AC100V รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูงสุด 1,500W เสียบใช้งานสะดวกจ่ายไฟภายนอก ภายในโทนดำแดง เบาะนั่งทรงสปอร์ตหนังแท้ดำเดินด้ายแดง หัวเกียร์หุ้มหนังดำล้วน เข็มขัดนิรภัยสีดำเติมความร้อนแรงขึ้นอีกขั้น
สมรรถนะ Performance
ขุมพลัง Plug In Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force PHEV ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 177 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 219 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor รหัส 5NM ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร สำหรับล้อหน้า และล้อหลังให้กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร
ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 14.85 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 306 แรงม้า วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 90 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC วิ่งไกลสุดในโหมดไฮบริดมากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อการชาร์จและการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง
ชาร์จมีสองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC แบบ Type 1 รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาเพียง 2.30 ชั่วโมง และกระแสตรง DC CHAdeMO 20-80% ภายในเวลา 38 นาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฮบริดมากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อการชาร์จและการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง
คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดได้แก่ EV,EV/HEV,HEV และชาร์จแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลังด้วยกำลังขับจากมอเตอร์กำลังสูง ประหยัดสุด 20.3 กิโลเมตรต่อลิตร
พร้อมระบบ V2H Vehicle-to-Home พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์มาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ของรถยนต์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับที่อยู่อาศัยในช่วงที่ค่าไฟฟ้ามีราคาสูง และ สามารถเลือกชาร์จไฟฟ้าได้ในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าลดลงเพื่อประหยัดเงินค่าไฟฟ้า พร้อมระบบเลี้ยวที่ล้อหลังหรือ “DRS (Dynamic Rear Steering) รวมอยู่ด้วย
ช่วงล่างปรับแปรผันแบบ AVS และดิสก์เบรกสี่ล้อเริ่มที่จานดิสก์เบรกหน้าขนาด 20 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์อะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ เพื่อเพิ่มระยะการเบรกดีขึ้น และคาลิปเปอร์เบรกทั้งหน้าและหลังทาสีแดงเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์แบบสปอร์ตระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ครบครันด้วย
- Automatic High Beam ลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน
- Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า
- Road Sign Assist ช่วยสังเกตป้ายสัญญาณเตือน
- Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับ
- Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมฟังก์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ
- Lane Tracing Assist ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง
- Blind Spot Monitor แจ้งเตือนมุมอับสายตา
- Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง
- Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ
- Front Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะเดินหน้า
- Lane Change Assist ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
- Front and Rear Parking Assist with Automatic Braking ช่วยจอดหน้าและหลังอัจฉริยะพร้อม ช่วยเบรกอัตโนมัติ
Toyota Crown Sport RS THE LIMITED-MATTE METAL รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดที่ญี่ปุ่นในราคา 7,650,000 Yen หรือราว 1,835,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 5,749,000 บาท โดยขายที่แฟลกชิบสโตร์ “THE CROWN” เท่านั้น
ที่มา Carwatch
