ถ้าจะพูดถึงค่ายรถยนต์ที่มีพลังงานทางเลือกหลากหลายและเป็นที่รู้จักของสาวกทั่วโลกคงหนีไม่พ้นค่ายรถเจ้าของโลโก้สามห่วงชื่อดังอย่าง Toyota
ที่ปัจจุบันมียานยนต์หลากหลายตั้งแต่ Hybrid, Plug In Hybrid, Electric ไฟฟ้าล้วน และขุมพลังเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen หรือ FCEV ที่มี Toyota Mirai เก๋งขับหลังพื้นฐาน Lexus LS เป็นหัวหอกในการทำตลาดทั่วโลกและล่าสุดกับ Toyota Hilux H2 Prototype กระบะต้นแบบขับเคลื่อนด้วยพลัง FCEV คาดว่าเป็นรุ่นแรกของค่ายและครั้งแรกของวงการรถเพื่อการพาณิชย์
โดยกระบะต้นแบบพลังไฮโดรเจนนี้ ทาง Toyota Motor Manufacturing UK ได้รับความช่วยเหลือจากทีม R&D ของ Toyota Motor Europe พร้อมด้วยพันธมิตรไม่ว่าจะเป็น Ricardo บริษัทด้านวิศวกรรมที่คอยสนันสนุนทางด้านเทคนิคของเซลล์เชื้อเพลิงและโครงแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame chassis, ETL ที่ช่วยพัฒนาระบบควบคุมความร้อน, D2H พัฒนาทางด้านอุณหพลศาสตร์วิศวกรรมด้านอุณหภูมิและด้านความร้อน และ Thatcham Research พัฒนาด้านความปลอดภัยและการรับประกัน
โดยจับ Toyota HILUX แค็ปตอนครึ่งยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ Toyota Hilux REVO Smart Cab 4WD เวอร์ชันไทยถอดเครื่องดีเซลออก หล่อเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมโครเมียม ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ รับกับกันชนหน้ากลมกลืมลงตัวพร้อมไฟตัดหมอหหน้า ล้ออัลลอยลายคุ้นตา 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/65R17 ไฟท้ายแบบ LED 3 Light Guiding ฝากระบะท้ายและกันชนหลังคงเดิม
ขุมพลังไฮโดรเจนที่มาประจำการในครั้งนี้ยกมาจาก Toyota Mirai เจเนอเรชันที่สองด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM ให้กำลังมากถึง 185 แรงม้าที่ 6,940 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่0-3,267 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งเพียง 647 กม. โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที
Toyota Hilux H2 Prototype ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลอังกฤษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางภาครัฐ Advanced Propulsion Center (APC) ที่มีนโยบายริเริ่มพัฒนายานยนต์ที่จำหน่ายในอังกฤษสามารถปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ด้วยเงินลงทุนวิจัยและพัฒนาถึง 11.3 ล้านปอนด์ หรือราว 483 ล้านบาท จากยานยนต์ที่เป็นแนวคิดกลายเป็นต้นแบบและขายจริงในอนาคต โดยผลิตที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing UK Burnaston ในเมือง Derbyshire อังกฤษ ประเดิมขายที่อังกฤษเป็นที่แรกในช่วงปี 2023 นี้
ที่มา Carscoops
