หลังจากที่ Toyota Majesty รถตู้หรูกลับมาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปีกลายหลังหยุดขายไปจากปัญหาเรื่องที่นั่งและการจดทะเบียน
ล่าสุด โตโยต้า เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2026 สำหรับ Toyota Majesty พร้อมขุมพลังรองรับ EURO5 พร้อมออปชันเพิ่มความสบายและความปลอดภัย
รูปลักษณภายนอกหรูหราทันสมัย
โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ความหรูหราด้วยชุดโครเมียมทั้งคันตั้งแต่กระจังหน้า คิ้วแนวนอนครอบทับช่องระบายอากาศ พร้อมกรอบไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูแบบดึงก้านที่เปิดประตูสไลด์สองฝั่ง คิ้วชายล่าง คิ้วกรอบป้ายทะเบียน รูปตัว V พร้อมชุดแต่งสเกริ์ตรอบคัน ประตูบานสไลด์อัตโนมัติ 2 ด้าน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ชุดไฟ LED ทั้งไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้าย ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R17 มิติตัวรถเริ่มที่
- ความยาว 5,300 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลเมตร
- ความสูง 1,990 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,210 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,715-2,745 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร
ภายในเพิ่มออปชันเพิ่มมา 2 รายการ
- ระบบเบรกมือจากคันโยกมาเป็นเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
- กระจกมองหลังแบบดิจิตอลในรุ่น Grande
หน้าจอสัมผัสขนาดใหม่ 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบนำทางในรุ่น Grande พร้อมออปชันเดิมทั้งม่านบังแดดไฟส่องสว่าง Illumination ภายในห้องโดยสาร คอนโซลหน้าเข้มหรูพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งด้วยลายไม้ มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 4.2 นิ้ว
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกหน้า-หลัง ให้ความเย็นสบายตลอดการเดินทางพร้อม ระบบกรองอากาศภายใน NANOE จอสัมผัสเชื่อมต่อด้วย T-CONNECT ตอบรับการใช้ชีวิตของคุณได้อย่างไร้ขีดจำกัดและลำโพงรอบคัน 12 จุด ที่วางแก้วน้ำและช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ พร้อมช่องต่ออุปกรณ์เสริม USB-C 6 ตำแหน่งและ USB-A 1 ตำแหน่ง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน และบันไดขึ้น-ลงกว้างขึ้น
ครบครันด้วยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายด้วย 11 ที่นั่ง แบบ 2+3+2+4 มีการปรับในส่วนเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ฝั่งคนนั่งปรับระบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง สำหรับรุ่นท็อป Grande ปรับระดับเก้าอี้ด้านข้างเบาะและหัวหมอนพับได้ ส่วนรุ่น Premium เบาะด้านคนนั่งปรับได้ 4 ทิศทางแบบธรรมดา
เบาะผู้โดยสารด้านหลังในแถวที่ 1–2 จะเป็นที่นั่งแบบ Captain Seats 4 ที่นั่ง และสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมหัวหมอนแบบ Butterfly ที่รองน่อง และระบบบริหารหลังแบบไฟฟ้าสำหรับรุ่น Grande ทั้งนี้ในแถวที่ 1 ยังมาพร้อมกับเบาะผู้โดยสารตำแหน่งกลางและหัวหมอน ที่สามารถพับเป็นที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และเบาะผู้โดยสารแถวสุดท้ายจะเป็นแบบ Bench Seat 4 ที่นั่ง ที่มีหัวหมอนทุกที่นั่งพับได้แบบ 50/50 พับแขวนติดกระจกเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
แรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน
รหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร รองรับ EURO 5 พร้อมเทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPF (Diesel Particulate Filter) ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Sequential Shift ช่วงล่างหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง
ความปลอดภัยครบครัน TOYOTA SAFETY SENSE ในรุ่น Grande
- ความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
- เตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
- ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
ควบคุมการทรงตัว VSC ป้องกันการลื่นไถล TRC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติในกรณีหยุดรถแบบฉุกเฉิน เบรก ABS เสริมแรงเบรก BA พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเฟืองท้าย Auto Limited Slip Difference ถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 จุด เข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX & Top Tether) 4 จุด
กล้องมองรอบคัน (PVM) พร้อมกล้องมองหลัง ไฟเบรกดวงที่สาม ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหัน (ESS) ล็อกควมเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) ช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA) กล้องวีดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ (DVR) แจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
Toyota Majesty MY2026 มีให้เลือกถึง 2 สี ทั้ง สีขาวมุก – White Pearl (ภายในสี Black) สีดำ – Black Mica (ภายในสี Black และ Beige) จำหน่ายในไทย 2 รุ่นย่อย ราคาจะปรับขึ้นจากเดิม 5,000-10,000 บาท
- รุ่น Grande ราคา 2,339,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- รุ่น Premium ราคา 1,994,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
*สีขาวมุก ราคาเพิ่ม 15,000 บาท