More

    ภาษีทรัมป์ ถล่มค่ายรถญี่ปุ่น กำไรดิ่ง ขาดทุนยกแผง

    ภาษีทรัมป์ ส่งผลบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นกำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่กำไรลดลงรวม 30% จากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าศุลกากรของสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 ส่งผลให้กำไรรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นลดลง ซึ่งอาจมีผลต่อผลประกอบการและทิศทางธุรกิจในอนาคต


        นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น 7 แห่งของญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า (Toyota), ฮอนด้า (Honda), นิสสัน (Nissan), มาสด้า (Mazda), มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors), ซูบารุ (Subaru) และซูซูกิ (Suzuki) มีกำไรลดลงรวมถึง 30% หรือราว 1.5 ล้านล้านเยน (ประมาณ 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน ผลกระทบมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นถึง 27.5% แม้ว่าในเดือนกันยายน ที่ผ่านมาภาษีถูกปรับลดลงมาเหลือ 15% แล้วก็ตาม


        มาตรการภาษีดังกล่าวส่งผลรุนแรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างชัดเจน โดยนิสสัน, มาสด้า และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต่างมีผลขาดทุนสุทธิในช่วงเวลาดังกล่าว ด้านฮอนด้า มอเตอร์ มีกำไรสุทธิลดลง 37% ส่วนซูบารุมีกำไรที่ลดลงถึง 45% ขณะที่โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก มีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 18.6% ส่งผลให้บริษัทขาดทุนจากการดำเนินงานในอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินโลกเมื่อปี 2551

        กำไรสุทธิรวมของทั้ง 7 บริษัทที่ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่สอง สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนตร์หลายรายตัดสินใจไม่ปรับขึ้นราคาในสหรัฐฯ  เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด แม้ต้องเผชิญต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


        ทั้งนี้ คาดว่าผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีผลต่อกำไรของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรวมกว่า 2.5 ล้านล้านเยน หรือราว 520,000 ล้านบาท ตลอดปีงบประมาณ 2568 (สิ้นสุดมีนาคม 2569) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการหดตัวของกำไรผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น อาจยิ่งถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในภาวะเปราะบางอยู่แล้ว

    ที่มา: thansettakij, infoquest

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts