VIAUTO BOMA จากค่ายไชน่าวีออโต ออโตโมบิล รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 4 ที่นั่ง วิ่งไกล 200 กม. คาดราคา 500,000 บาท พบตัวจริงที่ Motor Show 2024 เพิ่มทางเลือกให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้คึกคักยิ่งขึ้นกว่าเดิม
VIAUTO BOMA ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ขนาดเล็ก กะทัดรัดสำหรับใช้งาน พร้อมจุดเด่นหลักที่เน้นความคุ้มค่า เป็นตัวเลือกในหมวดของ Economical option ตอบโจทย์การใช้งานเรื่องประหยัดพลังงาน มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมโชว์ตัวครั้งแรกในงาน Motor Show 2024 ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 – 7 เมษายน 2567 เวลา 12:00 – 22:00 น ที่บูธหมายเลข M6 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
ชูจุดเด่นด้านดีไซน์โมเดิร์นขนาดเล็ก ไม่ว่าจะถอยเข้าช่องจอดรถ หรือขับไปห้างสรรพสินค้าที่ไหนพร้อมจอดได้อย่างสบาย และด้วยเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% สามารถขับเคลื่อนได้ไกล 200 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และทำความเร็วสูงสุด 100 กม./ชั่วโมง ตัวแบตเตอรี่ มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ IPX7
การออกแบบโครงสร้างตัวรถยนต์ใช้วัสดุเหล็กคุณภาพสูง อัตราส่วนผสมเหล็ก high-strength steel มากถึง 65% จึงให้ความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และยังคงความเบาของรถยนต์ จึงทำให้การออกตัวไม่กระตุก และให้ความรู้สึกการขับขี่ที่เร้าใจ โครงเสารถ A/B มีการเสริมเหล็กถึง 4 ชั้น ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นให้คุณมั่นใจในการขับขี่ ระบบเบรกเป็น ABS/EBD ที่มาพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้า
สำหรับสมรรถนะการขับขี่จะใช้พลังงานจากแบตเตอรีประเภทลิเธียม พลังกำลัง 30 กิโลวัตต์ แรงบิด 84 นิวตันเมตร ส่วนอัตราสิ้นเปลืองจากผลทดสอบพบว่าความประหยัดของการใช้พลังงานไฟฟ้าแค่เพียงกิโลเมตรละ 25 สตางค์เท่านั้น
ห้องโดยสาร มีการออกแบบคล้ายกล่องสี่เหลี่ยม เพื่อให้มีขนาดกว้าง โดยเฉพาะช่วงศีรษะและที่วางขาทั้งที่นั่งด้านหน้ากับด้านหลัง มีความโปร่งสบาย ประตูมีทั้งหมด 5 ประตู แบ่งเป็น 4 ประตูห้องโดยสาร และประตูท้ายเก็บสัมภาระ
มิติขนาดตัวรถยนต์ 3517 x 1495 x 1660 มม. ระยะฐานล้อ 2,459 มม. จึงมีพื้นที่กว้างเป็นพิเศษ เก็บสิ่งของได้สบายๆ จุสิ่งของโดยรวมได้ประมาณ 2000 ลิตร พร้อมช่องเก็บสัมภาระทั้งหมด 16 จุด
สำหรับ BOMA รุ่นวิ่งได้ไกล 200 กม. ราคาประมาณ 500,000 บาท มี 5 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Ocean Blue, Avocado Green, Agate Grey, Snowy White และ Amazon Green
ในอนาคตจะมีการเปิดตัวรุ่นวิ่งได้ไกล 300 กม. เสริมทัพ พร้อมให้ยลโฉมภายในสิ้นปี 2024 นี้