More

    ISUZU D-MAX EV ปิกอัพอีวีขับสี่ 177 ม้า วิ่งไกลประมาณ 300 กม.

    ในที่สุดประเทศไทยเป็นที่แรกของโลกเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่และพร้อมที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในอนาคตกับ ISUZU D-MAX EV และ DMAX MHEV

    ISUZUเริ่มที่ ISUZU D-MAX EV ปิกอัพไฟฟ้าต้นแบบนำพื้นฐานของ ISUZU V-Cross 4×4 ถอดเครื่องยนต์ดีเซลแล้วใส่ชุดมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time และเฟืองท้ายภายใต้ “eAxle” พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

    เริ่มที่ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวโดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า กำลังสูงสุด 54 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรและมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 217 นิวตันเมตร แรงม้ารวมสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดรวม 325 นิวตันเมตร วิ่งไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้งประมาณ 300 กิโลเมตร

    ISUZUให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 66.9 kWh ความสามารถในการลากจูงสูงถึง 3.5 ตัน (3,500 กิโลกรัม) น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1 ตัน ผสานกับช่วงล่างด้านหลังใหม่หมดแบบ De-Dion มั่นใจบนทุกสภาพถนน โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูงและการออกแบบโครงและตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่ม ความสามารถในการลากจูงได้

    ISUZUมากันที่ ISUZU D-MAX MHEV โดยนำพื้นฐานรุ่น Hi-Lander 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร RZ4E-TC 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดยการติดตั้งแบตเตอรี่ 48 โวลต์

    ทำหน้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อนลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะ สตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยลด CO2

    สำหรับ ISUZU D-MAX EV มีแผนจะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกอย่างเป็นทางการจากฐานการผลิตประเทศไทยในปี 2025 จะเปิดตัวในประเทศภาคพื้นทวีปยุโรป บางประเทศ เช่น นอร์เวย์ ในปีเดียวกัน จากนั้นมีกำหนดการจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไทย ตลอดจนประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป

    ขึ้นอยู่กับ ความต้องการของตลาดและความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเนื่องจากวิธีการใช้งานของลูกค้าแตกต่างกัน  ส่วน ISUZU D-MAX MHEV ยังเป็นรถทดลองประกอบเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้าซึ่งอยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนกำหนด แผนการจำหน่าย ต่อไป

    ISUZUพร้อมก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เดินหน้าด้วยแนวคิด โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Multi-pathways to Carbon Neutrality) เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้รถทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการจัดการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้รถควบคู่ไปกับการส่งมอบความสุขที่ยั่งยืนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรับมือกับโลกยานยนต์อนาคต

    มีเป้าหมายที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รถปิกอัพ และรถบัสโดยสาร ภายในปี 2030 และจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท วิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2030 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) โดยสามารถพบตัวจริงได้ที่งาน Bangkok Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 7 เมษายน

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts