นอกจากการเปิดตัว Volvo ES90 ในวันที่ 5 มีนาคม ในวันเดียวกันก็พร้อมเปิดตัวหน้าใหม่ Volvo S90 ปรับครั้งที่ 2 หลังปรับครั้งแรกเมื่อปี 2020
โดยเป็นภาพที่ถ่ายบางส่วนทั้งด้านหน้าและด้านท้ายสำหรับ Volvo S90 ไมเนอร์เชนจ์ โดยการไมเนอร์ครั้งที่ 2 ปรับใหม้เริ่มตั้งแต่
กระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยมใหม่สวยหรูพร้อมตราโลโก้ Iron Mark โดยไส้ในของกระจังหน้ามาแบบทรงแทยงมุม ไฟหน้าค้อนของธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า Thor’s Hammer แบบ LED พร้อมไฟ DRL หรือ Daytime Running Light ฝังไว้ในโคมเป็นรูปตัว T มาแบบรมดำรับกับกันชนหน้าทรงใหม่ พร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยม และช่องระบายอากศแนวตั้ง 2 ฝั่ง เสริมหรูด้วยคิ้วโครเมี่ยมแนวยาวตลอดทั้งชิ้นเพิ่มความภูมิฐานอีกระดับ
ด้านข้างมาพร้อมหลังคาซันรูฟ กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่ ที่เปิดประตูดึงก้าน คิ้วชายล่างใหม่ตกแต่งด้วยโครเมียมแนวยาว
ด้านท้ายออกแบบใหม่ย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนมาอยู่ฝาท้ายจากเดิมอยู่ที่กันชนหลัง ไฟท้ายทรง Thor’s Hammer แบบ LED รมดำใหม่ รวมถึงการดีไซน์ใหม่ที่หรูขึ้นด้วยคิ้วโครเมียมชายล่างกันชนแนวยาวรับกับกันชนหน้าและด้านข้าง และล้ออัลลอยลายใหม่ทั้งขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R18 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 255/40 R19
โดยยังใช้แพลตฟอร์มเดิม Scalable Product Architecture (SPA) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มการออกแบบทางวิศวกรรมที่นำสมัยที่สุด
ภายในคาดว่าปรับในส่วนจอสัมผัสขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 11.2 นิ้ว with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play
พร้อมเทคโนโลยี Sensus Connect อุปกรณ์เชื่อมสัญญาณสั่งการและสื่อสารผ่านดาวเทียม ระบบแรกของโลกที่เชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และรองรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในเครือข่าย iOS เช่น iPhone และระบบ Android Auto บังคับควบคุมที่ปุ่มสัมผัสบนแกนพวงมาลัยรถ และ การสั่งการด้วยเสียง Voice Control ของผู้ขับขี่
มาตรวัดความเร็วแสดงผลกราฟฟิกขนาด 12.3 นิ้ว ช่องลมแอร์แนวตั้งที่ขัดเกลาเคลือบด้วยโลหะรูปทรงเพชร ระบบฟอกอากาศอัจฉริยะพร้อมเซนเซอรวัดค่า PM2.5 และ Clean Zone ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
ติดตั้งเครื่องเสียงติดรถยนต์ “Premium Sound by Bowers & Wilkins” สเตอริโอรอบทิศทางที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดเป็นมิติฟังนุ่มหูที่สุดของโลก มาพร้อมกับแอมพลิฟายเออร์ 1,400 วัตต์ 12-แชนเนล คลาส-ดี และลำโพง 19 ตัวรอบห้องโดยสาร และแบรนด์ Bowler & Wilkins เลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio, Individual Stage, และ Gothenburg Concert Hall ที่สร้างสรรค์ประสบการณ์การได้ยินเหมือนนั่งอยู่ใน Gothenburg Concert Hall
เบาะหุ้มหนัง Nappa ฉลุลาย เบาะหน้ามีระบบระบายความร้อน ผสานความงามของคันเกียร์คริสตัลที่ผลิตโดย Orrefores สวีเดน อรรถประโยชน์ เช่น ช่องเก็บของรอบห้องโดยสาร ที่คอนโซลกลาง และที่วางแขนกลางเบาะหลัง พนักพิงเบาะหลังแยกพับราบได้ 60/40 เพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระขณะเดียวกันก็สามารถนั่งโดยสารฝั่งใดฝั่งหนึ่งของเบาะหลัง และ wireless charger ไร้สาย

ขุมพลังเดิมทั้ง Mild Hybrid B5 กับเบนซิน 2.0 ลิตร รหัส B420T2 ผสานการทำงานของTurbocharger และ Supercharger เข้าด้วยกันให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 5,400-5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,800-4,800 ต่อนาที
จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมอเตอร์ไฟฟ้า 48 V สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถ ให้กำลัง 14 แรงม้า แรงบิด 40 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.2 วินาที ประหยัด 14.81 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า
รุ่นเบนซินเทอร์โบ B6 พร้อมซูเปอร์ชาร์จ (Supercharger) รหัส B420T ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,400 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 3,500-8,000 รอบต่อนาที ตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.2 วินาที
ขุมพลัง T8 Plug In Hybrid ด้วยเบนซิน Twin Engine 2.0 ลิตร รหัส B4204T35 ผสานการทำงานของ Turbocharger และ Supercharger ให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000-4,800 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 146 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium Ion ความจุ 18.831 kWh
เมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังแรงถึง 456 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร สามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว (Pure mode) ได้ไกลถึง 80 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.9 วินาที ประหยัด 52.08 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ AC สูงสุด 5-13 ชั่วโมง ทั้งสองขนาดจับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมเกียร์ทรอนิค (Geartronic)
และ T8 Plug In Hybrid สเปกไทยด้วยเบนซิน Twin Engine 2.0 ลิตร รหัส B4204T35 ผสานการทำงานของ Turbocharger) และ Supercharger เข้าด้วยกันให้กำลังสูงสุด 317 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000-5,400 รอบต่อนาที
พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 145 แรงม้าที่ 15,900 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium Ion ความจุ 18.8 kWh เมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 462 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร
สามารถวิ่งโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว Pure mode ได้ไกลถึง 98.2 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัด 71.4 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.6 วินาที ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ AC 3 ชั่วโมง

ความปลอดภัยมาครบทั้งระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Pilot Assist) ที่ความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้างขณะถอยหลังจากที่จอดพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Cross Traffic Alert with Auto Brake) ถุงลมกันสะเทือน 4 ทิศทาง Four-C Air Suspension ปรับแต่งค่าต่างๆ สอดคล้องกับโหมดการขับขี่ที่เลือกโดยในโหมดการขับขี่ Hybrid หรือ AWD
ระบบถุงลมกันสะเทือน Four-C ตั้งค่าการทำงานให้มอบความนุ่มสบายในการขับขี่สูงสุด หากเลือกโหมด Pure หรือ Power ระบบถุงลม Four-C จะถูกปรับให้มีการทำงานที่มอบสัมผัสของการขับขี่แนวสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และ กล้องแบบ 360° มอบทัศนียภาพมุมสูงให้ผู้ขับมองเห็นได้รอบทิศทาง

เบื่องต้น Volvo S90 ไมเนอร์เชนจ์หน้าสองเปิดตัวพร้อมกับ Volvo ES90 ในวันที่ 5 มีนาคม ที่กรุงสต็อคโฮม ประเทศสวีเดน
ที่มา AUTOHOME