นี่คือ 1 ใน 3 รุ่นใหม่ค่าย Volvo เตรียมบุกตลาดเมืองไทยปีนี้ประเดิมรุ่นแรกกับการปรับโฉมอีกครั้งในรอบ 10 ปี ของ Volvo XC90
Volvo XC90 ไมเนอร์เชนจ์ตครั้งที่ 2 ในร่างเจเนอเรชันที่ 2 หลังปรับโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2019 กลายเป็นรถในค่ายไวกิ้งที่ทำตลาดมายาวนานถึง 10 ปี เรียกอีกอย่างว่ารุ่นแซยิด
หน้าตาได้รับแรงบันดาลใจจาก Volvo EX90 ตั้งแต่ กระจังหน้าลายดีไซน์ใหม่ด้วยเส้นโครเมียมแบบเฉียงซ้าย-ขวา พร้อมตราวอลโว่ Iron mark ทรง 3 มิติใหม่ ไฟหน้าดีไซน์ Thor’s hammer อันเป็นเอกลักษณ์ ถูกออกแบบให้มีความเรียว และกว้างมากขึ้น
เสริมด้วยเทคโนโลยีไฟเมทริกซ์ LED ใหม่ จึงให้แสงไฟที่ส่องสว่างครอบคลุม และไกลขึ้นกว่าเดิม กันชนหน้ามาพร้อมการออกช่องดักลมด้านข้างแบบแนวตั้ง และแนวนอนดีไซน์เรียวยาวบริเวณส่วนล่างของกันชน ฝากระโปรงหน้าถูกปรับให้รับกับโฉมหน้าใหม่ของรถเพื่อเพิ่มความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
ด้านข้างยังคงเดิมทั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ราวหลังคาแบบบิ๊วอินน์ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน ปรับในส่วนคิ้วชายล่างประตูใหม่ ท้ายรถมาพร้อมกับไฟท้ายที่มีการออกแบบให้เข้มขึ้น โดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนโครเมียมภายในทั้งหมดเป็นสีดำ ทำให้เส้นแนวตั้งของการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นและให้รูปลักษณ์ที่ทันสมัย กันชนหลังออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 275/45R20 ตัวรถยังคงเดิมตั้งแต่จากพื้นฐาน SPA 1 Platform
- ความยาว 4,953 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,923 มิลลิเมตร (รวมกระจกมองข้าง 2,140 มิลลิเมตร)
- ความสูง 1,767 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,984 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 218 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,015-2,228 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 71 ลิตร
หรูหราแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มีพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมากถึง 1,874 ลิตรหลังพับเบาะตอนที่ 2 กับ 3 มีระบบฟอกอากาศอัจฉริยะพร้อมเซนเซอรวัดค่า PM2.5 และ Clean Zone ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ในชุดเครื่องปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาและด้านหลังแบบ 4 โซน งานออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนอันโด่งดังทั้งหัวเกียร์คริสตัลเจียระไนตกแต่งด้วยไม้แอชรมดำจากบริษัทผลิตแก้วชื่อดัง ORREFORS
ในส่วนของแผงคอนโซลหน้าคงเดิมมาพร้อมระบบควบคุมอินโฟเทนเม็นต์ที่ถูกปรับให้อัจฉริยะยิ่งขึ้นผ่านอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายเหมือนการใช้งานในรถไฟฟ้า 100% อย่างในรุ่น EX30 และ EX90 บนหน้าจอแบบสัมผัสแนวตั้ง ความละเอียดสูง ไร้กรอบ ขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 11.2 นิ้ว with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play
หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้พร้อมระบบปฏิบัติการ Android สามารถอัปเดทผ่านทาง OTA (over-the-air) และ Apple Car Play
พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้านมาพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12 นิ้ว จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD 9 นิ้ว นอกจากนี้ยังออกแบบที่วางแก้วใหม่แบบ 2 +1 นอกจากนี้ยังได้มีการย้ายตำแหน่งแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายไปอยู่ระหว่างช่องคอนโซลด้านหน้าเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น
“Premium Sound by Bowers & Wilkins” สเตอริโอรอบทิศทางที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดเป็นมิติฟังนุ่มหูที่สุดของโลก ระบบเสียงชั้นนำชุดนี้มาพร้อมกับแอมพลิฟายเออร์ 1,410 วัตต์ 12 แชนเนล คลาส-ดี และลำโพง 19 ตัวรอบห้องโดยสาร เลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio, Individual Stage, และ Gothenburg Concert Hall สร้างสรรค์ประสบการณ์การได้ยินเหมือนนั่งอยู่ใน Gothenburg Concert Hall
สเปกไทยคงเดิมกับเบนซิน Drive-E AWD Plug-In Hybrid T8 ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 18.8 kWh ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบ่งเป็นล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ล้อหลังขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ชาร์จได้เฉพาะกรแสสลับ AC ชาร์จสูงสุด 3-7 ชั่วโมง
ขุมพลังคงเดิมกับเบนซินเทอร์โบ Drive-E AWD Plug-In Hybrid T8 ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 18.8 kWh ภายใต้รหัส B4204T53 ให้กำลังสูงสุด 317 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000-5,400 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 145 แรงม้าที่ 3,280-15,900 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตรที่ 0-3,280 รอบต่อนาที และเมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 462 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร
การชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุดในโหมด Pure mode โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ไกลสุด 76.7 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบ่งเป็นล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ล้อหลังขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ชาร์จได้เฉพาะกรแสสลับ AC ชาร์จสูงสุด 3-7 ชั่วโมง
จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบทรอนิค (GEARTRONIC) พร้อมโหมดการขับขี่ 6 โหมดดังนี้ทั้ง Pure Electric เฉพาะรุ่น PHEV, Hybrid Mode เฉพาะรุ่น PHEV, Individual mode ,Power Mode ,OFF Road และ Constant AWD
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบปีกนกคู่และด้านหลังอินทิกรัลลิงค์และ ช่วงล่างถุงลม 4 มุม (4-Corner Air Suspension) โครงแชสซีแบบ Four-C ซึ่งติดตั้งมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานสามารถปรับความหนืด ปรับการตอบสนองได้ตามสภาพถนน โดยทำงานร่วมกับแชสซีด้วยความถี่ระดับ 500 ครั้งต่อวินาที เพิ่มคุณภาพการขับขี่ให้นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยในการทรงตัวและการเข้าโค้ง เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับ และเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสารในทุกที่นั่ง
และความปลอดภัยด้วยออปชัน Advanced Driver Assist System (ADAS) ช่วยให้กล้องและเซนเซอร์รอบตัวรถตรวจจับวัตถุได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และฟังก์ชันเพื่อช่วยในการขับขี่อื่นๆอาทิ
- ล็อคความเร็วแปรผันอัตโนมัติพร้อมมฟังกชันหยุดรถ/ออกตัวรถโดยอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Queue Assist
- เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงเพื่อช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้อย่างปลอดภัย Pilot Assist
- เข้าจอดรถด้วยมุมมองแบบ 360° ผ่านกล้องสี่ตัวเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคสิบสองตัว Park Assist Camera
- ป้องกันการชนด้วยเซนเซอร์ตรวจจับรถยนต์ คนเดนิถนน ผู้ขับขี่จักรยานและสัตว์ใหญ่พร้อมฟังกชันหยุดรถและช่วยหักหลบ City Safety With Full Auto brake and Steering Assist
- ป้องกันการชนบรรเทาการบาดเจ็บพร้อมหยุดรถอัตโนมัติทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และทางแยก Collision Avoidance & Mitigation Support with Auto Brake
- เตือนมุมอับสายตาพร้อมช่วยหักหลบ Blind Spot Information System (BLIS) with steering assist
- แจ้งเตือนขณะถอยรถและระบบช่วยเบรก Newly Cross Traffic Alert with Auto Brake
- แจ้งเตือนเพื่อให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า Distance Alert
- แจ้งเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Keeping Aid (LKA)
- ควบคุมและป้องกันการโคลงของรถ Roll Stability Control (RSC)
Volvo XC90 Big Minor Change เปิดตัวที่ไทยในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยเป็นรถนำเข้าจากมาเลเซียขายรุ่นเดียวคือรุ่น Ultra T8 Plug-in Hybrid Bright ในราคา 4,690,000 บาท