More

    Volvo XC90/ES90/EX30 Cross Country 3 รุ่นใหม่จ่อมาไทยปีนี้

    ต้อนรับปีงูอย่างเต็มรูปแบบสำหรับ Volvo ค่ายรถยนต์หรูจากสวีเดนที่ประสบความสำเร็จจากยอดขายปี 2024 ที่มีสัดส่วนสูงถึง 80% 

    Volvoเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 24% และโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดย Volvo EX30 พระเอกของค่ายที่ส่งผลให้มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 40% ตามมาด้วย Volvo EC40 และ EX40 ที่มียอดขายที่ 20% เท่าๆกัน สำหรับรถกลุ่มไฟฟ้าล้วน

    ทางด้านรถปลี๊กอินไฮบริดนั้นมีสัดส่วนยอดจำหน่ายรวมที่ 20% โดยมี Volvo XC60 และ XC90  2 เอสยูวีที่ยังคงสร้างความสนใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

    สำหรับปี 2025 มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดโดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ที่ 5% นอกจากการส่งมอบ Volvo EX90 ช่วงไตรมาสแรกแล้วรถใหม่ตลอดปีนี้พร้อมที่จะส่ง 2 รุ่น เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเท่านั้นในอนาคตเริ่มที่

    Volvo

    Volvo XC90 ไมเนอร์เชนจ์หนที่ 2 หลังปรับครั้งแรกเมื่อปี 2019 ในร่างเจเนอเรชันที่ 2 แซยิดมานาน 10 ปี ด้วยหน้าตาได้รับแรงบันดาลใจจาก Volvo EX90 ตั้งแต่ กระจังหน้าติดตราโลโก้ Iron Mark แบบทรงแทยงมุม พร้อมขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิมไฟหน้า LED ใหม่ดีไซน์เอกลักษณ์ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) หักเหตามพวงมาลัยพร้อมระบบไฟสูงและปรับมุมส่องสว่างอัตโนมัติ ในชุดกันชนหน้าใหม่พร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมและไฟ DRL LED แนวตั้ง ทำงานร่วมกับชุดไฟหน้า

    ด้านข้างยังคงเดิมทั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ราวหลังคาแบบบิ๊วอินน์ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน ปรับในส่วนคิ้วชายล่างประตูใหม่ ด้านท้ายยังคงเป็นไฟท้าย LED แนวตั้งยาวแนวรมดำและกันชนหลังออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยลายใหม่ทั้งขนาด 19 และ 20 นิ้ว ตัวรถยังคงเดิมตั้งแต่จากพื้นฐาน SPA 1 Platform

    Volvo

    ภายในหรูหราแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มีพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมากถึง 1,874 ลิตรหลังพับเบาะตอนที่ 2 กับ 3 ในส่วนของแผงคอนโซลหน้ายังคงเดิมปรับในส่วน จอสัมผัสขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 11.2 นิ้ว with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play

    หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้พร้อมระบบปฏิบัติการ Android สามารถอัปเดทผ่านทาง OTA (over-the-air) และ Apple Car Play

    Volvo

    พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้านมาพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12 นิ้ว จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD 9 นิ้ว เครื่องเสียงติดรถยนต์มีให้เลือกทั้งแบบปกติ High Performance audio 10 จุด กำลังขับ 220W จากแบรนด์พรีเมียม 2 แบรนด์ทั้ง Harman Kardon Premium Sound 14 จุด กำลังขับ 600 วัตต์ 12 แชนเนล

    และสูงสุด “Premium Sound by Bowers & Wilkins” สเตอริโอรอบทิศทางที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดเป็นมิติฟังนุ่มหูที่สุดของโลก ระบบเสียงชั้นนำชุดนี้มาพร้อมกับแอมพลิฟายเออร์ 1,400 วัตต์ 12 แชนเนล คลาส-ดี และลำโพง 19 ตัวรอบห้องโดยสาร เลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio, Individual Stage, และ Gothenburg Concert Hall สร้างสรรค์ประสบการณ์การได้ยินเหมือนนั่งอยู่ใน Gothenburg Concert Hall

    มีระบบฟอกอากาศอัจฉริยะพร้อมเซนเซอรวัดค่า PM2.5 และ​ Clean Zone ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ในชุดเครื่องปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาและด้านหลังแบบ 4 โซน กับ wireless charger ไร้สายและงานออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนอันโด่งดังทั้งหัวเกียร์คริสตัลเจียระไนตกแต่งด้วยไม้แอชรมดำจากบริษัทผลิตแก้วชื่อดัง ORREFORS

    Volvoขุมพลังสเปกไทยยังคงเดิมทั้งเบนซิน Drive-E AWD Plug-In Hybrid T8 ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ (Turbocharger) ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 18.8 kWh ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบ่งเป็นล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ล้อหลังขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ชาร์จได้เฉพาะกรแสสลับ AC ชาร์จสูงสุด 3 ชั่วโมง

    รหัส B4204T56 ให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 5,000-8,000 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 146 แรงม้าที่ 15,900 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตรที่ 0-3,280 รอบต่อนาที และเมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 456 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร

    ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.4 วินาที การชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุดในโหมด Pure mode โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ไกลสุด 73 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบ่งเป็นล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ล้อหลังขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า

    Volvo

    เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบทรอนิค (GEARTRONIC) พร้อมโหมดการขับขี่ 6 โหมดดังนี้ทั้ง Pure Electric เฉพาะรุ่น PHEV, Hybrid Mode เฉพาะรุ่น PHEV, Individual mode ,Power Mode ,OFF Road และ Constant AWD

    พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบปีกนกคู่และด้านหลังอินทิกรัลลิงค์และ ช่วงล่างถุงลม 4 มุม (4-Corner Air Suspension) โครงแชสซีแบบ Four-C ซึ่งติดตั้งมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานด้วยออปชัน Advanced Driver Assist System (ADAS) ช่วยให้กล้องและเซนเซอร์รอบตัวรถตรวจจับวัตถุได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและฟังก์ชันเพื่อช่วยในการขับขี่อื่นๆ

    Volvo

    อีกหนึ่งรุ่นที่จะมากับ Volvo EX30 Cross Country ที่จะเปิดตัวทั่วโลก 10 กุมภาพันธ์ นำพื้นฐานของรุ่น EX30 มาตกแต่งสไตล์ลุยเริ่มที่ ไฟหน้า Matrix LED ดีไซน์ค้อนอันเป็นเอกลักษณ์ Thor Hammer พร้อมกระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark เสริมพื้นหลังสีดำ ฝากระโปรงหน้าดีไซน์เล่นระดับพร้อมขอบฝากระโปรงหน้ามีความหนาขึ้นและกันชนหน้าเสริมคิ้วสีดำเสริมดุ

    ด้านข้างดุดันด้วยหลังคารถแบบลอยตัวหรือ Floating roof โดยเป็นหลังคาสีดำตั้งแต่เสา A คิ้วขอบล้อสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ คิ้วชายล่างสีดำ ไฟท้าย LED รูปตัวซีแนวยาวล้อมกรอบพื้นหลังสดำ โดยมีไฟเบรกดวงที่ 3 ติดข้าง กระจกหลังซ้าย-ขวาพร้อมสปอยเลอร์หลังในตัวและฝากระโปรหน้าเปิดมาเป็นที่วางของ Front load compartment ขนาด 61 ลิตร ล้ออัลลอยสีทูโทนลายแอโรขนาด 18 นิ้วและ 19 นิ้ว ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน SEA ที่จะเป็นแพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับรถไฟฟ้าและความสูงรถเพิ่มขึ้น

    แบตเตอรี่ลิเทียมไอฟอนฟอสเฟต NMC ด้วยความจุแบตเตอรี่ 51 กับ 69 kWh ทั้งรุ่น Single Motor Extended Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 565 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จ DC กระแสตรงรองรับกำลังไฟสูงสุด 153 kW 10-80% ทำได้ 26.5 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC 11 kW ทำได้ 8 ชั่วโมง

    Volvo

    รุ่น Twin Motor Performance มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 541 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จ DC กระแสตรงรองรับกำลังไฟสูงสุด 134 kW 10-80% ทำได้ 28 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC 11 kW ทำได้ 8 ชั่วโมง ทั้งสามความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Shift-by-wire single speed transmission

    Volvo

    อีกหนึ่งรุ่นที่จะมาภายในปีนี้กับเก๋งไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายกับ Volvo ES90 อาจขายคู่กับ Volvo S90 กับหน้าตาตามสไตล์ วอลโว่ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark พร้อมขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิม ไฟหน้า LED ใหม่ดีไซน์เอกลักษณ์ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer)

    ด้านข้างกับกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูนที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถรวมถึงหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและไฟท้าย LED รูปตัว C แน่นอนว่าคันนี้สร้างจากแพลตฟอร์ม Scalable Product Architecture (SPA2) เดียวกันกับ Volvo EX90 โดยมาในชื่อรหัสโครงการ V551 ใหญ่ทั้งคัน

    Volvo

    ภายในอาจยกงานดีไซน์มาจาก Volvo EX90 ตั้งแต่คอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายคลาสสิกแบบรูปตัวทียาวด้วยแผงช่องแอร์แนวนอนซ้าย-ขวา จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.5 นิ้วรองรับ Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto แบบ Android Automotive OS แสดงการนำทาง สื่อ ควบคุมโทรศัพท์

    ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ มี HUD บนแผงคอนโซลหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ใหม่แผงคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่ติดตั้งจอมาตรวัดแบบดิจิทัลบอกทั้งความเร็ว เส้นทางการขับขี่ ข้อมูลการจราจรและอื่นๆแนวนอนหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ มาพร้อมลำโพง B&W 25 ตัว รองรับ DOLBY ATMOS พร้อมไฟ Ambient Light ผ่านลายไม้

    ขุมพลังอาจยกมาทั้งกะปิจากรุ่น EX90 ทั้งความจุแบต lithium-ion ขนาดใหญ่ 111 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง แรงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 745 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และอาจขยับวิ่งไกลไปอีก

    ทั้งรุ่น Twin Motor แรงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตรและรุ่น Twin Performance 517 แรงม้า แรงบิด 910 นิวตันเมตร สามารถชาร์จกระแสตรง DC 10-80% ภายใน 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 250 kW

    และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW ภายใน 10 ชั่วโมง พร้อมระบบ LiDAR หรือ Light Detection and Ranging ตรวจจับวัดระยะทางของวัตถุและคนเดิน โดยการใช้แสงเลเซอร์ไปกระทบกับวัตถุแล้วคำนวณระยะทางด้วยระยะเวลาทำงานได้เร็ว

    Volvo

    โดยทั่วโลก Volvo ES90  เป็นหนึ่งในรุ่นใหม่จากทั้งหมดหกรุ่นครอบคลุมทุกเซกเมนต์ภายในปี 2026 หลังจากแนะนำรุ่น EX90, EX30 และ EM90 เตรียมเผยช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ที่กรุงสต็อคโฮม ประเทศสวีเดน ส่วนไทยปลายปีนี้พบกัน ท้าชน BMW i5, Mercedes-Benz EQE และ Audi A6 E-Tron

    นอกจากนี้ทาง Volvo ยังได้วางแผนเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่งใหม่ พร้อมวางแผนการขยายบริการ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความนิยมของลูกค้าที่สนใจรับบริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นบริการที่มีความสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถรับบริการได้จากที่บ้านหรือสถานที่ที่นัดหมาย ประหยัดเวลาการเดินทางไปที่ศูนย์บริการ

    ยังได้วางแผนจัดตั้งจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ ร่วมถึงเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts