เปิดตัวแล้วสำหรับ XPENG G6 ไมเนอร์เชนจ์ในไทยอย่างเป็นทางการและพิเศษตรงที่มีการแนะนำรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เข้ามาเป็นทางเลือก
ไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีของการจำหน่ายทั่วโลกสำหรับ XPENG G6 ในร่างเอสยูวีทรงสปอร์ต
หน้าตาใหม่
เริ่มที่แถบไฟ LED DRL แนวยาวตลอดแบบใหม่ Galaxy Light Wing จากเดิมแยกส่วนครั้งนี้ย้ายโลโก้ X จากเคยอยู่ในชุดเดียวกับแถบไฟมาอยู่บนฝากระโปรงหน้า ด้านท้ายเสริมสปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail เข้าไปเติมความสปอร์ตเหนือระดับ กันชนหลังใหม่แบบ C Ring ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่กลีบดอกไม้สีดำขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20
ทุกอย่างคงเดิมตั้งแต่ไฟหน้า LED สองฝั่งพร้อมระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ ชุดกันชนหน้าทรงเดิมออกแบบช่องระบายอากาศใหม่แบบรังผึ้ง กระจกมองข้าง ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังกระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless Glass Panoramic Glass Roof หลังคากระจกแบบพาโนรามาตกแต่งหลังคาด้วยสีดำ ไฟท้าย LED แนวยาว ฝาท้ายไฟฟ้า
พร้อมรุ่นใหม่ AWD Performance Black Edition มาพร้อมชุดแต่งสีดำทั้งคัน
ตัวรถพัฒนาบนพื้นฐาน Platform SEPA 2.0 ตั้งแต่
- ความยาว 4,758 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,650 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,115-2,220 กิโลกรัม
ภายในใหม่
ปรับในส่วนของแผงคอนโซลหน้าออกแบบช่องแอร์ใหม่ตลอดแผงทั้งซ้าย-ขวารวมถึงช่องแอร์ตรงกลางออกแบบใหม่สามารถปรับเลื่อนทิศทางลมด้วยมือปรับได้ตามต้องการตามความต้องการของลูกค้าในไทยและต่างประเทศ พร้อมไฟสร้างบรรยากาศใหม่แบบ Starlight Rhythm Matrix พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านออกแบบปุ่มใหม่ 2 ข้างและเบาะนั่งคู่หน้าเพิ่มระบบนวด
บุหลังคาใหม่ด้วยวัสดุหนังกลับรวมถึงลดช่องว่างของแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูให้เหลือเพียง 5±2 มิลลิเมตรเพิ่มความประณีตบรรจงมากกว่า 50% ของชุดแผงประตู คอนโซลหน้าและบริเวณกล่องคอนโซลกลางติดตั้งวัสดุหนังสัมผัสใหม่แบบนุ่ม
ใหม่!! มาตรวัดความเร็วดิจิทัล 10.25 นิ้ว ใหม่!!จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Full scenario voice assistant 2.0 รองรับ Real time continuous voice command recognition การใช้งานแบบมัลติโซน และการใช้งานแบบออฟไลน์ อัปเดตทั้งเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ผ่านระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air)
ช่วยให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตลอดเวลา รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto ทำให้ผู้ขับได้ใช้สิ่งที่ใหม่และทันสมัยก่อนใคร ผ่านชิป Qualcomm Snapdragon SA8295P ใหม่!! กระจกมองหลังสามารถแสดงภาพจากกล้องได้แบบเรียลไทม์ขนาด 9 นิ้ว
คอนโซลกลางติดตั้งที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 ช่องกำลังไฟสูง 50W พร้อมลำโพง XOPERA Surround Sound System มากถึง 18 จุด รวมลำโพงบริเวณพนักพิงศีรษะคนขับ 2 จุด ให้กำลังเสียงสูงสุดถึง 960 วัตต์ และ NFC Card Key กุญแจการ์ดแบบ NFC ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน พร้อมฟอกอากาศภายในรถ และตรวจสอบและแสดงผล PM2.5
เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ NAPPA ปรับไฟฟ้าคู่หน้าปรับ 10 ทิศทาง มีระบบอุ่นเบาะระบายอากาศด้วยความเย็น พร้อมบบันทึกตำแหน่งพร้อมระบบต้อนรับเข้า-ออกสะดวกเบาะนั่งด้านหน้า เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 571 ลิตร ในกรณีไม่พับเบาะหลังและ 1,374 ลิตร กรณีพับเบาะหลัง และโทนภายสีเทาเข้ม Dark Gray
ขุมพลังไฟฟ้า
สเปกไทยคงเดิมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดัน 800 โวลต์ ด้วยแบตเตอรี่ 800V Technology (LFP) ความจุขนาด 80.8 kWh ความเร็วสูงสุด 202 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย
- รุ่น Long Range RWD มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 296 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 6.7 วินาที ขับได้ไกลสุด 600 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 525 กิโลเมตร (WLTP)
- ใหม่!! รุ่น 4WD Performance ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 486 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร วิ่งระยะทางสูงสุด 575 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 510 กิโลเมตร (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 4.13 วินาที
ทั้ง 2 รุ่นรองรับหัวชาร์จ Type 2/CCS Combo และรองรับ 5C Ultra-fast charging ชาร์จเร็วแบบพิเศษทั้งชาร์จ DC โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 12 นาที รองรับกำลังไฟสูงสุด 451 kW (เดิม 280 kW) และชาร์จ AC กระแสสลับ รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 kW โดยชาร์จไฟจาก 5-100% ใช้เวลาเพียง 9.2 ชั่วโมง
ขณะที่เทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell to Body รวมเป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างตัวถัง ก็เป็นที่ยอมรับว่าดีที่สุดในปัจจุบันและการขึ้นรูปตัวถังแบบ Die-cast Structure ทำให้ตัวถังมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 83% ด้วยโครงสร้างบริเวณประตูแบบ 3 ชั้น มีความกว้างเป็นพิเศษ ช่วยปกป้องแบตเตอรี่จากการชนด้านข้างได้ดียิ่งขึ้น รองรับแรงกระแทกสูงสุดถึง 80 ตัน และจ่ายกระแสไฟฟ้า 220V ให้อุปกรณ์ภายนอก V2L พร้อมช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ ประกอบด้วยด้านหน้าแบบ Double Wishbone Independent Suspension และด้านหลังแบบ Five-link Independent Suspension
ความปลอดภัย
ผ่านมาตรฐาน E-NCAP และ C-NCAP ระดับ 5 ดาว มีระบบ XPILOT 2.5 หรือ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems)ที่ประกอบด้วย ชิปประมวลผลความเร็วสูงของ NVIDIA Orin-X ระบบเรดาห์ความละเอียดสูง 5 จุด เซนเซอร์อัลตร้าโซนิค 12 จุด ระบบบกล้อง (พร้อมระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่) เพิ่มมาเป็น 13 จุด (เดิม 12 จุด) มาครบทั้ง
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC)
- บช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน Lane Centering Control (LCC)
- ช่วยควบคุมการเข้าโค้งอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Turning Cruise (ATC)
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Active Lane Change (ALC)
- ช่วยเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Limit Assist (SAS)
- ช่วยจอดอัตโนมัติ Enhanced Auto Parking Assist (EAP)
- ช่วยออกจากที่จอดรถอัตโนมัติ Auto Exit Parking Assist (AEP)
- ช่วยจอดอัตโนมัติจากระยะไกลด้วยโทรศัพท์มือถือ Mobile App Remote Parking Assist (Mobile App. RPA)
- นำรถเข้า-ออกจากช่องจอดในแนวตรง Remote Vehicle Summon (RVS)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- ตรวจสอบระยะห่างด้านหน้า Front Vehicle Distance Monitoring (FDM)
- ช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ตรวจสอบป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- ตรวจจับสถานะผู้ขับขี่ Driver State Monitoring (DSM)
- ช่วยตรวจจับและช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detection and Warning (BSD)
- แสดงภาพมุมอับสายตา Blind Spot View (BSV)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนขณะเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- ช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยเตือนนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ High Beam and Dipped Headlight
ตรวจสอบและแสดงแรงดันลมยาง Tire pressure monitoring ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Surround view camera พร้อมจำลองการมองเห็นใต้ท้องรถ Transparent Chassis และ จำลองภาพภายนอกรถยนต์ SR Environment Simulation Display
XPENG G6 ไมเนอร์เชนจ์ มีสีภายนอก 4 สีดังนี้ สีใหม่!! สีม่วง Stellar Purple สีขาว Arctic White สีดำ Midnight Black สีเทา Graphite Gray เปิดราคาท้าชนกับ MG IM6 Toyota bZ4X และ ZEEKR 7X ขาย 2 รุ่นดังนี้
- รุ่น Long Range RWD ราคา 1,389,000 บาท (ลดลงจากเดิม 210,000 บาท)
- รุ่น AWD Performance ราคา 1,489,000 บาท (รุ่น Black Edition แต่งดำทั้งคัน)