หลังจากเปิดขาย XPENG P7+ เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนจนยอดขายดีล้นหลามมียอดขายสะสมกว่า 77,000 คันครองอันดับ 1 เก๋งไฟฟ้าขนาดกลางในจีน
ล่าสุด XPENG เตรียมขยายไลน์ขุมพลังไฟฟ้าขยายระยะทาง หรือ EREV (Extended-Range Electric Vehicle) ใน XPENG P7+ EREV และเป็นรถใหม่ลำดับที่ 4 ของค่ายที่ใช่ขุมพลังนี้
ภายนอกมีดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นไฟฟ้าล้วนเริ่มที่ด้านหน้าที่ล้ำสมัยกับไฟหน้า LED สองฝั่งฝังในชุดกันชนหน้าพร้อมแถบไฟ LED DRL แนวยาว บนชุดไฟหน้ากระจังหน้าทรงทึบและติดตราโลโก้บนไฟ DRL มาด้วยชุดกันชนหน้าออกแบบให้มีช่องระบายอากาศสีดำขนาดใหญ่แบบแอคทีฟเปิด-ปิดเพื่อลดแรงต้านลมที่จะเข้ามา
ด้านข้างมาพร้อมกระจกรถทรงโอเปร่าแบบเดียวกับยุโรปกระจกรถมาแบบไร้กรอบหรือ Frameless Door กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูรถดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถ
ด้านท้ายทรงสวยด้วยไฟท้าย รูปตัว C แนวยาวแบบ LED พร้อมสปอยเลอร์หลังสีดำติดกระจกหลังแบบ LED แนวยาว พร้อมกับเพิ่มโลโก้ท้ายรถ “POWER” และ “ULTRA” และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 จาก Michelin รุ่นนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEPA 2.0 ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพที่มากขึ้นดังนี้
- ความยาว 5,071 มิลลิเมตร (เพิ่มจากเดิม 15 มิลลิเมตร )
- ความกว้าง 1,937 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,512 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,967-2,073 กิโลกรัม
ภายในยกมาจากเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนด้วยจอจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Full scenario voice assistant 2.0 รองรับ Real time continuous voice command recognition
การใช้งานแบบมัลติโซนและการใช้งานแบบออฟไลน์มีการอัปเดททั้งเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์อัตโนมัติผ่านระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air) ช่วยให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตลอดเวลาทำให้ผู้ขับได้ใช้สิ่งที่ใหม่และทันสมัยก่อนใครพร้อมชิป Qualcomm Snapdragon SA8295P สามารถนำเสนอระบบนำทางแบบ 3 มิติ
ชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมมาตรวัดความเร็ว 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน คอนโซลกลางติดตั้งที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลังไฟสูง 50W พร้อมลำโพงมากถึง 20 จุดให้กำลังเสียงแบบพาโนรามารองรับการปรับเอฟเฟกต์เสียงต่างๆ เบาะนั่งหุ้มกึ่งหนังแท้ NAPPA ปรับไฟฟ้าคู่หน้ามีระบบอุ่นเบาะและเบาะเย็น เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ด้านท้ายมากถึง 2,221 ลิตร และมีพื้นที่ด้านท้ายตอนไม่พับเบาะ 725 ลิตร
มาพร้อมกับหลังคาแบบพาโนรามิกขนาด 2.1 ตารางเมตรสามารถป้องกันรังสี UV 99.9% และป้องกันรังสีอินฟราเรด 97.6% และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ปรับได้ 256 สี จอด้านหลังแบบสตรีมมิ่งขนาด 9 นิ้วให้ความคมชัดแม้จะขับในเวลากลางคืนฝนตกและวัสดุภายในแบบไมโครไฟเบอร์พร้อมโทนสีภายใน 2 สีทั้งสีเทา สีเทาเข้ม สีเบจ
ขุมพลังไฟฟ้าขยายระยะทางหรือ EREV ใช้เครื่องยนต์เป็นเครื่องปั่นไฟส่วนแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อน ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้าจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรให้กำลัง 245 แรงม้า
คู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ที่ยังไม่ระบุความจุแบตเตอรี่ ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน ยังไม่มีการเปิดเผยรวมถึงเรื่องระยะทางวิ่งไกลสูงสุดเมื่อทำงานทั้งระบบ
มีระบบชาร์จกลับ X-Pedal Energy Recovery เลือกได้ตั้งแต่ Off/Low/Medium/High พวงมาลัยไฟฟ้าและBrake pedal ปรับน้ำหนัก 3 โหมดทั้ง Comfort/Standard/Sport ชาร์จได้ทั้งกระแสสลับ AC และกระแสตรง DC รองรับ V2L 3.3 kW
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อด้านหน้าแบบ Double wishbone ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติทำงานด้วย AI Eagle Eye กล้องที่มีความคมชัด10 เท่า รองรับ HDR มีระยะการมองเห็นที่คมชัด ระยะการรับรู้เพิ่มขึ้นและทำงานได้ดีในที่แสงน้อยและย้อนแสงเทียบเท่ากับระบบ XNGP ด้วยชิป Turing AI พร้อมระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบ End-to-End และความปลอดภัย ADAS เบื่องต้นเตรียมเปิดขายจีนภายในปีนี้
ที่มา CarNewsChina