ในขณะที่ยุโรปกำลังทยอยเปลี่ยนผ่านจากยุคเครื่องยนต์สันดาปไปเป็นยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรักษาสภาพอากาศ ลดภาวะโลกร้อนไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่านี้ สิ่งนั้นเองก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับเช่นกัน จากรายงานของกลุ่มสิทธิของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งสหราชอาณาจักรฯ Motorcycle Action Group (MAG)
MAG ได้แถลงการณ์คัดค้านแผนการดำเนินงานของรัฐบาลสหราชอาณาจักรฯ ที่จะเริ่มยุติการใช้รถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป โดยภายในปี 2040 ทางภาครัฐตั้งใจที่จะห้ามการขายยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในใหม่ทั้งหมด
รายงานที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก MAG (รวมถึง Alliance of British Drivers และ FairFuelUK) ซึ่งถูกเผยแพร่โดย The Center for Economics and Business Research (CEBR) ได้ใช้วิธีการแบบเดียวกับที่ทางรัฐบาลใช้ เพื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะได้รับจากการสั่งห้ามใช้ยานยนต์ ICE ข้อสรุปพื้นฐานของรายงานคือ ประโยชน์ของการห้ามขายยานยนต์ ICE ใหม่นั้นมีข้อเสียมากกว่าข้อดี
ตามรายงานระบุว่า การห้ามใช้ยานยนต์ ICE จะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่มากกว่าผลประโยชน์ 5 เท่า และครัวเรือนในสหราชอาณาจักรฯ โดยเฉลี่ยจะต้องจ่ายเงินสุทธิ 14,700 ปอนด์ ต่อครัวเรือน เพื่อทำการเปลี่ยนถ่ายจาก ICE มาเป็น EV ซึ่งเมื่อคิดภาพรวมของประเทศแล้วจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายถึง 226,000 ล้าน ปอนด์
นอกจากนี้ รายงานยังได้พิจารณาถึงปัญหาการขาดแคลนลิเทียม ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2030 หลังจากที่ยานยนต์ไฟฟ้านั้นถูกผลิตเพิ่มขึ้น โดยลิเทียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
รายงานยังได้ระบุถึงการสูญเสียรายได้จากภาษีของรัฐบาลผ่านทางภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่า 76,800 ล้าน ปอนด์ นับจากตอนนี้จนถึงปี 2050 และจะส่งผลให้มีการปรับลดการใช้จ่ายจากทางภาครัฐครั้งใหญ่ หรือมีการขึ้นภาษีในส่วนอื่น ๆ ทดแทน
ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลคิดที่จะเก็บภาษียานยนต์ไฟฟ้าในระยะทางที่เดินทาง ซึ่งทางสหราชอาณาจักรฯ อาจจะประยุกต์แล้วนำไปใช้ด้วยเช่นกัน
สำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานอื่น ๆ ที่ถูกระบุเพิ่มในรายงานนั้น รวมถึงการซื้อยานยนต์ใหม่เป็นจำนวน 188,000 ล้าน ปอนด์ และค่าใช้จ่ายในการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าอีก 99,000 ล้าน ปอนด์ นอกจากนั้น รายงานยังคาดว่าจะเกิดการสูญเสียผลผลิตมูลค่า 47,000 ล้าน ปอนด์ จากการที่ผู้คนต้องรอการชาร์จ EV ของตัวเอง
“ถึงแม้ว่ามันจะยังคงมีเหตุผลเชิงกลยุทธ์สำหรับการดำเนินการห้ามก็ตาม เช่น การแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรฯ ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 นโยบายการกำกับดูแลนี้ก็ทำให้ความอยู่ดีกินดีของพลเมืองสหราชอาณาจักรฯ ถูกลดทอนลงด้วยเช่นกัน” รายงานระบุ
อ้างอิง : visordown.com