More

    ทำความเข้าใจ ข้อแตกต่าง วิธีการชาร์จ AC กับ DC

    ข้อมูลของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าต้องทำความเข้าใจ เพราะมีหลายประเภท รวมถึงวิธีการชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ในตัวรถ ที่เราเรียกกันว่าแบบ AC และ DC ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร?

    ทำความเข้าใจ ข้อแตกต่าง การชาร์จ AC กับ DC

    AC คือ Alternating Current ไฟฟ้ากระแสสลับ เรียกง่ายๆ คือการชาร์จกับไฟบ้าน ไฟจะวิ่งผ่าน On Board Charger ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อแปลงกระแสไฟจากกระแสสลับไป เป็นกระแสตรงแล้วชาร์จเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ การชาร์จแบบ AC นั้นเหมาะกับการชาร์จเอาไว้ข้ามคืนหลังจากผู้ขับขี่กลับบ้าน เพราะจะใช้เวลานานในการชาร์จ แต่สะดวกสบายกว่า

    DC คือ Direct Current ไฟฟ้ากระแสตรง การชาร์จกับสถานีชาร์จ เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า 100 % เป็นการชาร์จตรงเข้าแบตเตอรี่ภายในรถโดยตรงเลย ไม่ต้องผ่าน On Board Charger เหมาะกับการชาร์จด่วน ชาร์จเร็ว ใช้เวลาในการชาร์จน้อย เรียกว่าเป็นการชาร์จแบบด่วน

    ควรชาร์จแบบใหนให้เหมาะกับรถไฟฟ้าของคุณ

    การชาร์จแบบ AC นั้น น่าจะเป็นการชาร์จหลักของหลาย ๆ คน เพราะสามารถชาร์จได้ที่บ้านของตนเอง คิดง่าย ๆ ก็คือ สะดวก สบาย ไม่ต้องวิ่งหาสถานีชาร์จ การชาร์จแบบนี้ต้องใช้เวลาในการชาร์จนานซึ่งแตกต่างจากชาร์จกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เป็นการต่อจากเต้ารับที่บ้านได้ โดยตรง (Normal Charge) แต่ต้องมีการวางระบบไฟฟ้าใหม่และติดตั้งเต้ารับสําหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งการชาร์จ 1 ครั้ง จะใช้เวลา ประมาณ 12-16 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ ถ้าเราชาร์จ Tesla Model 3 Long Range ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 79 kWh โดยใช้ไฟบ้านจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 300 บาท

    การชาร์จแบบ DC นั้น เป็นการชาร์จกับสถานีชาร์จ ใช้เวลาในการชาร์จเร็วมาก โดยใช้เวลาเพียง 40-60 นาที ตัว Charger หัวชาร์จ ของตู้ EV Charger จะมีทั้งแบบที่เป็น AC และ แบบ DC ประเภทของหัวชาร์จจะขึ้นอยู่กับมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์รุ่นนั้นว่าออกแบบมาให้ใช้กับ Charger หัวชาร์จ ประเภทไหน แต่ก็มีข้อเสียคือ ทําให้ตัว แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และไม่สะดวกสบายหากต้องใช้รถเป็นประจําทุกวัน การชาร์จรถช่วง Offpeak จะจ่ายค่าไฟฟ้าเพียงหน่วยละ 5.5 บาทเท่านั้น สมมุติว่าชาร์จ Tesla Model Y Long Range จาก 0-100% ที่มีความจุแบตเตอร์รี่ 82 kWh จะเสียค่าไฟฟ้าเพียง 451 บาท

    สรุปง่าย ๆ ว่า การชาร์จแบบ AC ถึงแม้จะกินเวลานาน แต่ก็มีสะดวกสบายมากกว่า  ขับรถกลับบ้านมาก็ชาร์จทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องวิ่งไปหาสถานีชาร์จที่อื่น เรื่องค่าไฟก็ไม่แพงมาก ค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบการการเติมน้ำมันก็ถูกกว่า ชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน ตอนเช้าก็สามารถนํามาขับได้เลย

    ส่วนการชาร์จแบบ DC นั่น เหมาะกับเวลาฉุกเฉินหรือเวลาต้องเดินทางไกล ใช้เวลาชาร์จน้อย คุณอาจไปนั่งจิบกาแฟเพื่อรอชาร์จไฟจนเต็มได้ เพียงแต่ต้องขับรถหาสถานีชาร์จ ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราก็มีสถานีชาร์จมากขึ้นแล้ว

    ค้นหาสถานีชาร์จทั่วประเทศ ได้ที่นี่

    อัปเดต 2023 สถานีชาร์จไฟฟ้า จุดชาร์จไฟฟ้า EleX by EGAT เวลา – อัตราค่าบริการ

    อัปเดต สถานีชาร์จไฟฟ้า จุดชาร์จไฟ  EV Station PluZ เวลา – อัตราค่าบริการ

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts