นักแข่งทุกคนเมื่อขึ้นมาแข่ง Formula 1 ก็จะต้องเลือกหมายเลขประจำตัวซึ่งจะใช้แข่งขันตลอดอาชีพการเป็นนักแข่ง F1 ของพวกเขา และมีเพียงแชมป์โลกเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนหมายเลขได้ ดังนั้นเราไปดูกันเลยว่า นักแข่งแต่ละคนในปี 2023 พวกเขาใช้หมายเลขประจำตัวอะไร และมีความหมายเบื้องหลังอะไรต่อหมายเลขเหล่านั้น?
คอนเซปต์การใช้หมายเลขประจำตัวนั้นถูกริเริ่มใช้ใน F1 มาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อที่จะช่วยให้แฟน ๆ สามารถจดจำนักแข่งแต่ละคนบนแทร็คได้ โดยก่อนหน้านั้นหมายเลขรถของแต่ละคนจะเป็นไปตามลำดับผลงานของทีมในปีก่อนหน้า
ณ ปัจจุบันมีเพียงแชมป์โลกเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนหมายเลขประจำตัวได้ โดยนักแข่งผู้นั้นมีสิทธิที่จะใช้หมายเลขประจำตัวต่อไป หรือจะเปลี่ยนไปเป็นหมายเลข 1 ที่บ่งบอกถึงการเป็นแชมป์โลกก็ได้
สำหรับ Max Verstappen เขาเลือกใช้เบอร์ 1 แทนที่เบอร์ประจำตัวอย่างไม่มีความลังเล โดยแชมป์โลกชาวดัตช์กล่าวว่า “มันจะมีสักกี่ครั้งที่คุณจะสามารถใช้หมายเลข 1 ในอาชีพนักแข่ง F1? สำหรับผม ผมสามารถกลับไปใช้หมายเลข 33 ได้หากผมไม่ได้เป็นแชมป์โลกแล้ว แต่ตราบเท่าที่ผมยังเป็นแชมป์โลกอยู่ ผมจะใช้หมายเลข 1 ต่อไป”
ในส่วนของที่มาหมายเลข 33 ประจำตัวนักแข่งดัตช์ เขาใช้หมายเลขนี้ที่เขาคิดว่านำโชคแข่งขันมาตั้งแต่วัยเยาว์ จริง ๆ แล้วเขาเองก็ต้องการที่จะใช้หมายเลข 3 ต่อไปใน F1 แต่หมายเลข 3 นั้นถูกใช้โดย Daniel Ricciardo ไปแล้ว ดังนั้นนักแข่งดัตช์จึงเลือกที่จะปรับเปลี่ยนตัวเลขเล็กน้อยเป็น 33 เพื่อเป็นการเบิ้ลความโชคดีขึ้น 2 เท่า
ถัดจากหมายเลข 1 ก็มาเป็นหมายเลข 2 หมายเลขนี้ไม่ได้มีความหมายถึงการเป็นรองแชมป์โลกแต่อย่างใด แต่มันก็ดูจะเป็นหมายเลขที่ใครหลาย ๆ คนไม่ค่อยชอบนัก เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับการเป็นรองคนอื่น อย่างไรก็ตาม Logan Sargeant รูกี้น้องใหม่ของเราในปี 2023 ก็เลือกที่จะใช้เบอร์นี้ โดยนักแข่งหน้าใหม่ประจำกริด 2023 ให้เหตุผลว่า เขาเคยใช้เบอร์นี้ในการแข่งขัน Formula Renault และเขาก็มีผลงานที่ดีมากในปีนั้น เขาเลยเลือกที่จะนำมันมาใช้ต่อใน F1
ไล่เรียงหมายเลขกันลงมา Lando Norris เลือกใช้หมายเลข 4 ซึ่งเหตุผลที่นักแข่ง McLaren เลือกใช้เบอร์นี้นั้นง่ายมาก เพราะมันเข้ากันได้ดีกับแฮชแท็ก #L4ndo รวมถึงโลโก้ LN ที่เรามักจะเห็นบนหมวกนิรภัยของเขา นอกจากนั้น นักแข่งสหราชอาณาจักรฯ ยังเป็นแฟนตัวยงของตำนานนักบิด MotoGP อย่าง Valentino Rossi อีกด้วย แต่เขาไม่ต้องการที่จะก็อปปี้หมายเลข 46 มาจาก Rossi โดยตรง ดังนั้นมันจึงถูกลดเหลือเพียงหมายเลข 4
อดีตนักแข่งสังกัด AlphaTauri, Pierre Gasly ได้เลือกใช้เบอร์ 10 เบอร์ที่เขาลงแข่งขัน Formula Renault 2.0 Eurocup และคว้าแชมป์ได้ อีกทั้งนักแข่งเฟรนช์ยังเป็นแฟนตัวยงของ Zinedine Zidane นักฟุตบอลฝีเท้าทองคำ ซึ่งใช้หมายเลข 10 ลงเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส
Sergio Perez เป็นอีกคนที่หมายเลขประจำตัวของเขามีความเกี่ยวข้องกับนักฟุตบอล โดยหมายเลข 11 ของนักแข่งเม็กซิกันนั้นมาจาก Ivan Zamorano และเขาชื่นชอบหมายเลข 11 ถึงขนาดใช้ตัวเลขนี้ในทุก ๆ ที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งอีเมลของเขา
Fernando Alonso คว้าแชมป์โลกการแข่งขันคาร์ทได้ด้วยรถหมายเลข 14 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1999 ในวัย 14 ปี ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า สำหรับแชมป์โลก F1 2 สมัย ชาวสเปน หมายเลข 14 เป็นอะไรที่พิเศษสำหรับเขาจริง ๆ
สำหรับ Charles Leclerc เขารู้สึกพิเศษกับหมายเลข 7 แต่ในตอนนั้นมันได้ถูกใช้ไปแล้วโดย Kimi Raikkonen ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะใช้หมายเลข 10 ต่อ แต่เพื่อนรักของเขาอย่าง Pierre Gasly ก็ได้ใช้เบอร์นี้ไปก่อนเขาอีก สุดท้ายแล้ว เขาจึงนำคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยแก้ปัญหา (แบบงง ๆ) โดยการนำ 1 + 6 ซึ่งเท่ากับ 7 เขาจึงได้ตัดสินใจเลือกใช้เบอร์ 16 ในท้ายที่สุด
ถ้าหมายเลข 14 มีความพิเศษในแง่ของความทรงจำในการแข่งขันต่อ Fernando Alonso หมายเลข 18 เองก็มีความสำคัญในแบบเดียวกันกับ Lance Stroll นักแข่งแคนาเดียนคว้าแชมป์ Italian Formula 4 ได้ด้วยรถหมายเลข 18 อีกทั้งหลังจากวันเกิดครบรอบ 18 ปี เขาก็ได้เดบิวต์ลงทดสอบ F1 กับ Williams “ผมชอบที่จะยึดมั่นในสิ่งเล็กน้อยที่มีความสำคัญต่อผม” นั่นคือคำตอบของนักแข่งวัย 24 ปี
Kevin Magnussen เลือกใช้หมายเลข 20 ซึ่งเป็นเบอร์รถที่เขาคว้าแชมป์ Formula Renault 3.5 ในปี 2013 และทำให้เขาได้เดบิวต์ลงแข่งขัน F1 ในปี 2014 กับ McLaren
ทางด้าน Nyck de Vries น้องใหม่อีกคนประจำกริด 2023 เจ้าตัวไม่ได้อธิบายที่มาหมายเลข 21 ของเขาเป็นพิเศษ เขาเคยใช้มันลงทดสอบกับ Mercedes ในปี 2020 และ 2021 และเขาเพียงแค่รู้สึกว่ามันเป็นตัวเลขที่ให้โชคสำหรับเขา
เช่นเดียวกับใครหลาย ๆ คน Yuki Tsunoda ต้องการที่จะใช้หมายเลข 11 ซึ่งเขาเคยใช้สมัยแข่งขันคาร์ทมาใช้ต่อใน F1 แต่หมายเลขนั้นได้ถูกใช้ไปแล้วโดย Sergio Perez ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ที่ใครหลาย ๆ คนมักจะทำก็คือ การเบิ้ลเพิ่มหรือลดตัวเลขลง ซึ่งนักแข่งไซส์ S ประจำกริดก็เลือกที่จะเบิ้ลตัวเลข 11 จนกลายเป็นหมายเลข 22 ประจำตัวเขา
เช่นเดียวกับ Lando Norris, Alexander Albon เองก็เป็นแฟนตัวยงของ Valentino Rossi แต่เขาเองก็ไม่อยากที่จะก็อปปี้หมายเลข 46 ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ The Doctor ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงหั่นครึ่งให้มันกลายเป็นหมายเลข 23 แทน
I’ve always been a Rossi fan but since I can’t replace the doctor himself, I thought I’d have half of it 😂😂 #quickmaths #AA23 pic.twitter.com/WaKGjYL5uE
— Alex Albon (@alex_albon) December 18, 2018
Zhou Guanyu เลือกหมายเลข 24 ลงแข่งขัน F1 โดยมันเป็นหมายเลขที่เขาใช้รำลึกถึงฮีโร่ของเขา Kobe Bryant ตำนานนักบาสเกตบอลที่ลงแข่งขันฤดูกาลสุดท้ายด้วยหมายเลข 24
Nico Hulkenberg กลับมาลงแข่งขัน F1 เต็มฤดูกาลอีกครั้งด้วยรถหมายเลข 27 ซึ่งเป็นหมายเลขรถที่เป็นที่จดจำมากที่สุดใน F1 เพราะมันถูกใช้โดยนักแข่งระดับตำนานทั้งหลาย เช่น Ayrton Senna, Gilles Villeneuve, หรือ Jean Alesi แต่สิ่งที่ทำให้นักแข่งเยอรมันเลือกเบอร์นี้มาใช้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับนักแข่งข้างต้นเลย มันกลับเป็นอะไรบางอย่างที่ง่ายกว่านั้นคือ การบวกตัวเลขระหว่างวันที่และเดือนเกิดของเขา ซึ่งเขาเกิดในวันที่ 19 สิงหาคม
Esteban Ocon ใช้หมายเลข 31 คว้าแชมป์คาร์ทครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งนักแข่ง Alpine กล่าวว่ามันเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดฤดูกาลหนึ่งของเขา ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นเขาเลือกหมายเลข 31 ลงแข่งขัน F1 ด้วยเช่นกัน
มาถึงแชมป์โลก F1 7 สมัย Lewis Hamilton ในช่วงที่เริ่มต้นการเป็นนักแข่งรถจากโกคาร์ทนั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะเลือกหมายเลขอะไรเป็นเบอร์ประจำตัวของเขาดี ในตอนนั้นเองที่เขาเหลือบไปเห็นป้ายทะเบียนรถของพ่อเขา F44 และนั่นเองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นหมายเลขประจำตัวของนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน F1
นักแข่งหลายคนเลือกที่จะใช้เบอร์รถที่พวกเขาเคยแข่งขันในวัยเด็ก แต่ Carlos Sainz มีเหตุผลเบื้องหลังในการเลือกหมายเลข 55 ที่แตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง นักแข่งสแปนิชเลือกมันมาจากชื่อและนามสกุลของเขา ที่ลงท้ายด้วย S และขึ้นต้นด้วย S ซึ่งมันคล้ายกับตัวเลข 55 อีกทั้งเลข 5 ก็เป็นเลขที่เขาชื่นชอบ แต่เบอร์นั้นถูกเลือกไปโดย Sebastian Vettel ก่อนแล้ว เขาจึงมาจบกับตัวเลข 55 นั่นเอง
“พี่ชายของผมแข่งขันคาร์ทด้วยรถหมายเลข 63 ดังนั้นหมายเลขนี้จึงกลายเป็นเบอร์ประจำครอบครัวเรานับตั้งแต่นั้นมา” เป็นสิ่งที่ George Russell กล่าวถึงที่มาหมายเลข 63 ของเขา อีกทั้งหมายเลข 63 ยังสามารถสร้างสรรค์กับชื่อ GR ของเขา และยังมองว่ามันเป็น GB ซึ่งย่อมาจากสหราชอาณาจักรฯ สัญชาติของเขาได้อีกด้วย
หมายเลข 7 นั้นถือว่าเป็นเลขนำโชคที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับ Valtteri Bottas เองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ว่าหมายเลข 7 ถูกใช้ไปแล้วโดย Kimi Raikkonen ดังนั้นนักแข่งฟินน์จึงเพิ่มตัวเลข 7 เข้าไปอีกตัวกลายเป็น 77 แถมมันยังกลายเป็นโลโก้ที่พ้องกับชื่อของเขา ซึ่งเขานำไปใช้ในการค้าขายด้วยโลโก้ Bo77as
นักแข่งคนสุดท้ายประจำกริด F1 2023 Oscar Piastri เป็นอีกหนึ่งน้องใหม่ในปีหน้า เขาเลือกใช้หมายเลข 81 ซึ่งเป็นเบอร์ที่เขาใช้แข่งขันมาตั้งแต่เด็ก จนสามารถไต่เต้าขึ้นมาถึง F1 ในปัจจุบัน
นอกจากเบอร์ประจำตัวของนักแข่งข้างต้นแล้ว ยังมีหมายเลขบางตัวที่ F1 ห้ามไม่ให้มีการใช้งาน นั่นคือ หมายเลข 17 ซึ่งถูกเว้นไว้เพื่อรำลึกถึง Jules Bianchi ซึ่งประสบอุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขัน Japanese Grand Prix 2014 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับเบอร์อื่น ๆ ของนักแข่งที่รีไทร์ไปแล้ว จะถูกเว้นการใช้งานไว้ 2 ปี เผื่อนักแข่งเหล่านั้นกลับมา เช่น Fernando Alonso, Alex Albon, หรือ Nico Hulkenberg ที่ยังคงสามารถใช้เบอร์เดิมก่อนที่จะรีไทร์ได้ ในขณะที่เบอร์ของ Kimi Raikkonen จะต้องรอจนกว่าจะสิ้นสุดปี 2023 และเบอร์ของ Daniel Ricciardo และ Sebastian Vettel จะต้องรอจนกว่าจะสิ้นสุดปี 2024 ถึงจะสามารถเลือกใช้ได้
อ้างอิง : motorsport.com