อุบัติเหตุจากรถยนต์ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นรถยนต์ไฟไหม้ ไม่ว่าจะจอดเฉยๆแล้วเกิดประจุไฟจากสิ่งของในรถแล้วไฟไหม้ หรือชนแล้วรถเกิดระเบิดไฟไหม้ ระบบรถยนต์ทำงานขัดข้องแล้วไฟไหม้ ซึ่งกรณีนี้สร้างความเสียหายอย่างหนัก เพราะไม่สามารถซ่อมรถหรือเคลมอะไรได้เลยนั้น จนทำให้หลายคนกังวลว่า หากเราทำประกันไว้แล้วเกิดกรณีแบบนี้ ประกันของเราจะเคลมรถให้หรือไม่ มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
ประกันภัยชั้นไหน คุ้มครองกรณีรถยนต์เกิดไฟไหม้บ้าง?
- ในกรณีที่รถยนต์เกิดไฟไหม้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองการเกิดไฟไหม้รถยนต์ในทุกกรณี ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ส่วนประกันรถยนต์ชั้นที่ 3 และประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้
ประกันภัยคุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียหายของรถคันที่ทำประกันภัยไว้ รวมถึงรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากการไหม้ด้วยตัวของรถยนต์เองหรือไหม้เนื่องจากสาเหตุอื่นๆ โดยการพิจารณารับผิดชอบค่าเสียหายของรถที่ทำประกันไว้จะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
- รถเสียหายโดยสิ้นเชิง หรือ รถเสียหายอย่างหนัก
รถเสียหายโดยสิ้นเชิง หรือ รถเสียหายอย่างหนัก หมายถึง รถยนต์ที่เกิดเหตุหรือได้รับความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาสภาพเดิมได้ โดยความเสียหายที่ได้รับจะต้องไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถในขณะที่เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ขึ้น จึงจะเรียกว่า “รถเสียหายโดยสิ้นเชิง” หรือ “รถเสียอย่างหายหนัก” ได้ แต่หากทุนประกันภัยรถต่ำกว่า 80% ของมูลค่ารถในขณะที่เอาประกันภัย ในกรณีนี้ เจ้าของรถหรือผู้รับประโยชน์ ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้แก่บริษัททันที โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันเต็มจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และให้ถือว่าการคุ้มครองรถนั้นเป็นอันสิ้นสุดลง - รถได้รับความเสียหาย
หากเกิดกรณีไฟไหม้รถยนต์แต่ไม่ถึงขั้นเสียหายอย่างสิ้นเชิง ทั้งบริษัทประกันและผู้เอาประกันยังสามารถตกลงกันได้ ว่าให้ซ่อมรถให้กลับมาสภาพเดิมหรือเปลี่ยนรถที่มีสภาพเดียวกันแทนได้ หรือจะให้ชดเชยเป็นเงินแทนก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่การตกลงกันของทั้งสองฝ่าย
ไฟไหม้รถติดแก๊ส ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่
- รถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะได้รับความคุ้มครองการเกิดไฟไหม้รถยนต์ทุกกรณี แต่เราควรแจ้งบริษัทประกันภัยตั้งแต่ตอนทำประกัน เพื่อที่จะได้รู้ถึงรายละเอียดปลีกย่อยว่ามีอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์ของเราเอง
ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองรถติดแก๊ส กรณีดังต่อไปนี้
- หากเราติดตั้งแก๊สหลังจากทำประกันรถยนต์ แล้วไม่ส่งเอกสารยืนยันการติดตั้งแก๊สให้บริษัทประกัน
- ไม่แจ้งกรมขนส่งทางบก หลังจากได้ติดตั้งแก๊สที่รถ ถึงแม้ว่าเราจะติดตั้งได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้
- ติดตั้งถังแก๊สที่ไม่ได้รับมาตรฐานคุณภาพ มอก.(มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)
- อื่นๆ ตามที่ระบุๆ ไว้ในกรมธรรม์
ขั้นตอนแจ้งบริษัทประกันเมื่อติดตั้งแก๊สบนรถยนต์ทั้ง LPG และ NGV
- แจ้งผ่านตัวแทน นายหน้า หรือแจ้งตรงไปที่บริษัทประกันเองเลย
- ส่งเอกสารการจดทะเบียนการแจ้งเปลี่ยนแปลงประเภทเชื้อเพลิง ไปยังบริษัทประกัน
- ใบเสร็จค่าติดตั้งอุปกรณ์แก๊สบนรถ (ห้ามลืมและห้ามทิ้งเด็ดขาด)
ทำไมต้องดูรายละเอียดเรื่องความคุ้มครองกรณีไฟไหม้ในการเลือกทำประกันภัยรถยนต์?
อุบัติเหตุจากรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ แต่เราสามารถเลือกความคุ้มครองที่จะครอบคลุมถึงความเสียหายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถและตัวเราได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ ความเสียหายต่างๆที่เราจะต้องได้รับก็จะมีคนมาแบ่งเบาเราไปนั่นเอง และความคุ้มครองส่วนนี้มีอยู่ในประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไม่ต้องจ่ายแพงเหมือนชั้น 1 อีกด้วย
ข้อดี-ข้อเสีย ของประกันภัยที่คุ้มครองเหตุรถยนต์ไฟไหม้
ข้อดี
- หากเกิดเหตุขึ้น มีความคุ้มครองในส่วนนี้ทำให้เราได้รับการดูแลค่าเสียหายค่ารถและค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน
- ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถเอง ถ้าอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์
- ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีราคาใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 3 และประกันรถยนต์ 3+ ซึ่งถือว่าราคาไม่แพง ถ้าทำประกันภัยรถชั้น 1 , 2 และ 2+ ทีเดียวครอบคลุมถึงจุดนี้ไปด้วยเลย
ข้อเสีย
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ เท่านั้นที่คุ้มครองในส่วนนี้ หากเราซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3 และประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะไม่คุ้มครอง
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีราคาที่สูงกว่าประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ 2+ พอสมควร และมีข้อจำกัดในการทำ
ด้วยภาวะโลกร้อนที่ทุกคนเผชิญอยู่ทุกวันนี้ หรือการประหยัดค่าเชื้อเพลิงโดยหันมาติดแก๊ซแทนการใช้น้ำมันนั้น มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งหมดที่จะทำให้เกิดเหตุรถยนต์ไฟไหม้ได้ หรือปัจจัยอื่นๆที่เราไม่สามารถคาดเดาได้นั้น การทำประกันภัยกับตัวแทนที่คุณไว้ใจนั้น ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ยังไงก็ลองศึกษารายละเอียดของตัวแทนแต่ละที่ให้รอบครอบ เพื่อประโยชน์กับตัวคุณเอง