More

    2022 BMW i4 เก๋งไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย เข้าไทยแล้วเริ่ม 4.499 ล้านบาท

    หลังจากที่ BMW โชว์ดักคอส่งทีเซอร์ลงใน FB เพื่อโปรโมทว่า BMW i4 เก๋งไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย พร้อมที่จะในไทยอย่างเป็นทางการ

    BMW

    ล่าสุด BMW แนะนำ BMW i4 จำหน่ายในไทยเพียง 2 รุ่น โดยเป็น Gran Coupé สี่ประตูที่ผสมผสานความโอ่อ่ากว้างขวางภายในตัวรถเข้ากับการใช้งานจริง พร้อมโลดแล่นบนท้องถนนกับความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตซึ่งเป็นความโดดเด่นของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงคุณสมบัติหลากหลายที่ทำให้การเดินทางไกลอุ่นใจยิ่งขึ้น ช่วงหน้าของรถที่สั้นลง เสาทรงเพรียว ประตูพร้อมหน้าต่างแบบไร้ขอบ และหลังคาท้ายลาดที่ออกแบบมา อย่างโฉบเฉี่ยว พร้อมระบบไฟหน้า BMW Laserlight และกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมกับกล้องที่แฝงตัวอยู่ภายใน เซ็นเซอร์แบบเรดาร์และอัลตราโซนิก ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติเด่นในส่วนหน้าของตัวรถ โดยในรุ่น i4 M50 ถือเป็นรถยนต์ BMW M รุ่นแรกจาก M GmbH ยังตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุคาร์บอนดีไซน์ M พร้อมชุดแต่งวัสดุสีดำเงา BMW Individual คาลิเปอร์เบรก M Sport สีแดงเงา และโคมไฟหน้าสีดำ โดยภายในตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ยังมาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-Spoke แบบสลับสี พร้อมยาง 245/40 R19 สำหรับล้อหน้า และล้อหลัง255/40 R19

    ในขณะที่รุ่น i4 eDrive40 M Sport มาพร้อมชุดแต่ง M Sport ภายนอกตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมแบบด้าน ภายในตกแต่ง ด้วยอะลูมิเนียมลาย Rhombicle Anthracite พร้อมแถบโครเมี่ยม ยังมาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว ลาย Y-Spoke แบบสลับสี พร้อมยาง 245/40 R19 สำหรับล้อหน้า และล้อหลัง255/40 R19

    BMW

    ภายในห้องโดยสารเน้นการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่ เสริมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราระดับพรีเมียม พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ฝาท้ายขนาดใหญ่ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานมาพร้อมกลไกการเปิดและปิดแบบอัตโนมัติ ที่เก็บสัมภาระท้ายรถมอบความจุที่ 470 – 1,290 ลิตร เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง แผงหน้าปัดรถยนต์หุ้มหนัง Sensatec เบาะนั่งบุหนังแท้ Vernasca ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ช่วยเสริมที่สุดแห่งความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายในระหว่างการขับขี่

    จอแสดงผล iDrive ระบบควบคุมและระบบปฏิบัติการเจเนอเรชั่นใหม่พัฒนาให้การสั่งงานระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เป็นไปอย่างคล่องตัวและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ผ่านระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ใหม่ล่าสุด โดยเน้นที่การใช้งานหน้าจอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display และการสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant ที่ถูกพัฒนามาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หน้าจอดิจิทัล BMW Curved Display มาพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมระบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว หน้าจอโค้งด้วยองศาที่รับกับมุมสายตาของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัลยังมาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ ๆ และการใช้ภาพกราฟิกแบบใหม่เพื่อสื่อสารกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารบนรถอีกด้วย ระบบ Remote Software Upgrades ยังช่วยอัปเกรดให้ซอฟต์แวร์ของรถยนต์ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ

    หลากหลายระบบตัวช่วยถูกติดตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและยกระดับความปลอดภัยในขณะขับขี่และเมื่อจอดรถ โดยไฮไลท์สำคัญในรุ่น i4 M50 ใหม่ คือระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional และระบบ Sport Boost ในขณะรุ่น i4 eDrive40 M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go และระบบช่วยการขับขี่ รถยนต์ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมกับระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง

    BMW

    BMW i4 มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่อย่างแท้จริง โดยเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด โดยมีความจุพลังงานแบตเตอรีแรงดันสูงที่ 83.9 kWh และสามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 205 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 31 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ทั้งสองรุ่น

    เริ่มที่รุ่น i4 M50 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนปราศจากมลพิษ  ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวบริเวณเพลาหน้าและด้านหลังของรถ ส่งพลังได้ถึง 544 แรงม้า แรงบิด 795 นิวตันเมตร มอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้ยิ่งกว่า ทั้งยังทำระยะวิ่งได้สูงสุดถึง 521 กิโลเมตร ตามมาตรฐานทดสอบ WLTP ให้อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 22.5 – 18 กิโลวัตต์ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม / กิโลเมตร ส่วนรุ่น i4 eDrive40 M Sport ผสมผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 340 แรงม้า เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบคลาสสิก มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 590 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 19.1 – 16.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม/กิโลเมตร

    BMW

    ด้านมอเตอร์เน้นสมรรถนะทรงพลังด้วยแรงบิดที่สูง ยิ่งไปกว่านั้น ในรุ่น i4 M50 ยังสามารถเข้าสู่โหมด Sport Boost ผ่านการดึงพลังงานมหาศาลภายในเวลาเพียงกว่าสิบวินาที ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งพละกำลังสูงสุดจากระบบขับเคลื่อนแล้ว ยังให้แรงบิดสูงสุดที่ 795 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ส่วนรุ่น i4 eDrive40 M Sport มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 5.7 วินาที ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตยังมาพร้อมกับเสียงอันทรงพลังที่ีตอบสองในจังหวะการเร่งเครื่องซึ่ง่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น นอกจากนี้ ระบบ BMW lconicSounds Electric ยังมาพร้อมกับเสียงประกอบต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผ่านความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูและ Hans Zimmer นักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง

    BMW

    BMW

    BMW i4 ทั้งรุ่น M50 และรุ่น eDrive40 M Sport ใหม่ มาให้เลือกในสีดำ Black Saphire, สีขาว Mineral White, สีเทา Brooklyn Grey, สีน้ำเงิน Frozen Portimao Blue สำหรับรุ่น i4 M50 และสี Portimao Blue สำหรับรุ่น i4 eDrive40 M Sport โดยมีจำหน่ายในจำนวนจำกัดในประเทศไทยเพียง 16 คันสำหรับรุ่น i4 M50 และ 6 คันสำหรับรุ่น i4 eDrive40 M Sport โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

    – BMW i4 M50 ใหม่ ราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท

    – BMW i4 eDrive40 M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 4,499,000 บาท

    ราคาดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางฟรี BMW Wallbox พร้อมติดตั้ง สำหรับลูกค้า 22 ท่านที่จองออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts