บอสฝ่ายดูแลเครื่องยนต์ของ Mercedes-AMG Petronas F1 Team กล่าวว่า การเปลี่ยนเชื้อเพลิงจาก E5 ไปเป็น E10 ในปี 2022 นั้นมีผลกระทบต่อการออกแบบมากกว่าที่หลายคนคิด และมันเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคไฮบริดเลยทีเดียว
ค่ายผู้ผลิตทั้ง 4 ค่ายใน Formula 1 ต่างได้ทำงานกันอย่างหนักในการพัฒนาเชื้อเพลิงร่วมกับซัพพลายเยอร์ของพวกเขานับตั้งแต่ที่มีการประกาศใช้กฎเชื้อเพลิงใหม่ออกมา พวกเขาต้องปรับแต่งเครื่องยนต์เพื่อให้ดึงประสิทธิภาพออกมาจากเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมทางชีวภาพเพิ่มขึ้น
“ดังเช่นที่ผ่านมาทุกๆ ปี เมื่อเราทำการพัฒนาเชื้อเพลิง มันจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเรากับ Petronas เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อเพลิงนั้นเพลิดเพลินกับการทำงานในเครื่องยนต์ และเครื่องยนต์รู้สึกสุนทรีกับรสชาติของเชื้อเพลิง” Hywel Thomas กรรมการผู้จัดการของ Mercedes AMG High Performance Powertrains กล่าว “การเปลี่ยนแปลงในปีนี้ที่ได้ใช้ E10 น่าจะเป็นการเปลี่ยนกฎที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมานับตั้งแต่ปี 2014 มันเป็นงานใหญ่ที่ต้องทำให้แน่ใจว่าเราได้พัฒนาเชื้อเพลิงจริงๆ”
Thomas ยังได้เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงที่มากมายนั้นไม่ใช่เฉพาะมาจากการเพิ่มส่วนผสมชีวภาพเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการที่ส่วนผสมนั้นต้องเป็นเอธานอลด้วย
“ในยุคไฮบริดเราได้ใช้ส่วนผสมชีวภาพในเชื้อเพลิงมาโดยตลอด โดยมันต้องการส่วนผสม 5.75% โดยปริมาณ การเปลี่ยนแปลงในปีนี้นั้นบังคับให้ต้องเพิ่มส่วนผสมขึ้นเป็น 10% และแทนที่มันจะเปิดกว้างในการใช้ชนิดของส่วนผสม คุณจะต้องใช้เอธานอล”
“การเปลี่ยนแปลงไปเป็นเอธานอลนั้นหมายความว่า เครื่องยนต์จะตอบสนองต่อการใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย ในบางส่วนของสมรรถนะเราก็รู้สึกยินดีกับมัน แต่ก็มีบางส่วนที่เราต้องบอกตามตรงว่าเรายินดีกับมันน้อยกว่า”
“สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เปลี่ยนแปลงเชื้อเพลิงในส่วนที่เราทำได้ และเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ของเครื่องยนต์ในจุดที่เราทำได้ เพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพส่วนที่เราชอบออกมา และลดผลกระทบของส่วนที่เราไม่ชอบลง”
อ้างอิง : motorsport.com , thesportsrush.com
