หลังทำตลาดมาจนมียอดขายมากกว่า 240,000 คัน คันสำหรับ Nissan Almera Eco Car Sedan รุ่นบุกเบิกของไทยที่อยู่ยาวถึง 10 ปี
แต่เนื่องด้วยโครงสร้างภาษีรถยนต์จากเดิมจะแบ่งตามประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง (ยกเว้นน้ำมันดีเซล B20) เช่นรถที่เติม E85 จะสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2568 และแบ่งตามประเภทรถเช่น โครงการ Eco Car จะสิ้นสุดโครงการส่งเสริมทั้งเฟสแรกสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566 และเฟสสองสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2568 กลายเป็นโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท และ รถเครื่องสันดาปทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถที่มีทีนั่งไม่เกิน 10 คน และรถจักรยานยนต์ ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จาก กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร (กระทรวงการคลัง) ให้เหมาะสมโดยกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได 3 ช่วง ได้แก่ ปี 2569 , 2571 และ 2573 ตามลำดับ และปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประเภท BEV จากอัตรา 8% เหลืออัตรา 2%
ทำให้ Nissan ขานรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่พร้อมลุยรถ e-Power อย่างเต็มรูปหลังส่ง Nissan Kicks e-Power MY2022 ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องราคา การสื่อสารจนชาวไทยให้การยอมรับมากขึ้น ล่าสุดทาง ประชาชาติธุรกิจ ได้สัมภาษณ์กับทาง นายมาซาโอะ สึสึมิ รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ว่า ทางเรากำลังศึกษาเพื่อเตรียมบุกตลาด e-Power Eco Car เพื่อเสนอทางเลือกที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทย เป็นไปได้สูงว่าเตรียมศึกษาการทำตลาดของ Nissan Almera e-Power โดยจะเปิดตลาดได้ในเร็วๆนี้
นายสึสึมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลักดัน Nissan Almera e-Power เป็นการรับมือโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ของรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มรถยนต์ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าและจะเลิกสนับสนุนรถยนต์นั่งประเภทประหยัดพลังงานแบบมาตรฐานสากล Eco Car และเรามีไลน์ประกอบแบตเตอรี่รถรุ่น e-Power ที่โรงงานนิสสัน พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย (NPT) บางนา-ตราด กม.22 ซึ่งเป็นสายการประกอบแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ในโรงงานนิสสัน 4 แห่งทั่วโลกเพื่อรองรับรถยนต์กลุ่ม e-Power รุ่นอื่นๆด้วย
ถ้ามาจริง Nissan Almera e-Power อาจนำขุมพลังยกมาจาก Nissan Kicks e-Power เป็นเบนซิน HR12 DE 1.2 ลิตร e-Power เจนที่ 2 พัฒนาทั้งชุดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยให้แรงม้าถึง 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 2.06 kWh มีจำนวน 4 โมดูล 96 เซลล์ พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 AC3 Synchronous Motor ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 136 แรงม้าที่ 3,410-9,697 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 280 นิวตันเมตรที่ 0~3,410 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed Gear Reduction พร้อมโหมดการขับ Normal, S, Eco, และ EV โดยอาจปรับพลังแรงม้าแรงบิดให้เหมาะกับรุ่น Almera
ด้านรถยนต์ไฟฟ้าทางบริษัทแม่กำลังพิจารณาให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตรถอีวีแห่งที่ 3 ต่อจากญี่ปุ่นและอเมริกา รองรับตลาดในภูมิภาคนี้ แต่คงไม่ใช่ปีนี้หรือปีหน้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าต้องการความปลอดภัยสูง ดังนั้นการผลิตจะต้องได้มาตรฐาน ที่ผ่านมามีเคสรถยนต์ไฟฟ้าไฟไหม้มากถึง 300 เคส แต่ในจำนวนนั้นไม่มีแบรนด์ Nissan ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ๆ
จับตาไม้ตายเด็ดของ Nissan Almera e-Power ที่อาจเป็นความหวังใหม่ของหมู่บ้านเพื่อนที่แสนดี สร้างยอดขายถล่มทลายได้หรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ และ มติชน
