ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งทั้งในไทย ออสเตรเลีย และบางประเทศ สำหรับ Ford Ranger กระบะแกร่งเจนใหม่สายพันธุ์อเมริกัน
ล่าสุดเจ้ากระบะแกร่งเจนใหม่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าไทยและเทศกับการทดสอบการชนสูงสุดระดับ 5 ดาว จาก ANCAP หรือ Australasian New Car Assessment Program โดยคะแนนสูงสุด แบ่งเป็น การป้องกันผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ หรือ ADULT OCCUPANT PROTECTION ได้คะแนนสูงถึง 84% การป้องกันผู้โดยสารที่เป็นเด็กหรือ CHILD OCCUPANT PROTECTION 93% ระบบช่วยป้องกันความปลอดภัย หรือ SAFETY ASSIST ก็ได้คะแนนสูงถึง 83% และด้านระบบตรวจจับและป้องกันการชนคนเดินถนน หรือ VULNERABLE ROAD USER PROTECTION ได้คะแนนสูงถึง 74%
ระบบความปลอดภัยของ Ford Ranger ที่จำหน่ายในออสเตรเลียอาจมีออปชันคล้ายหรือเหนือกว่าสเปกไทยตั้งแต่ ถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคันทั้งคู่หน้า 2 จุด ด้านข้าง 2 จุด ม่านนิรภัย 2 จุด ใต้เข่าคนขับและคนนั่ง 2 จุด คั่นกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า 1 จุด ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) เตือนเมื่อออกนอกเลน Lane-departure warning ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-keep assist ตรวจจับขอบถนน Road edge detection ตรวจจับรถในจุดบอด กับ Blind-spot monitoring (pickup) with wider-view trailer mode ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Rear cross-traffic alert ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อม Stop&Go ในบางรุ่น Adaptive cruise control with Stop/Go อ่านป้ายจราจร Traffic sign recognition และควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane-centring
พร้อมป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี ช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM ควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC เบรกมือไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง 4 จุด กล้องมองรอบคัน 360 องศา และโครงสร้างห้องโดยสาร ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อให้ห้องโดยสารมีความปลอดภัย วัสดุที่ใช้บริเวณเสา A ด้านหน้าคนขับ และเสา B ระหว่างห้องโดยสารตอนหน้าและตอนหลัง รวมถึงเสา C บริเวณกระจกหลังรวมถึงขอบประตูด้านล่าง ทำจากเหล็กกล้าที่แข็งแรง เพื่อช่วยกระจายแรงปะทะออกจากตัวผู้โดยสาร
สเปกออสเตรเลียผลิตที่ไทยนั้นมาพร้อมกับพลังที่หลากหลายตั้งแต่ ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร YMWQ 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทางด้านดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร YN2Q 210 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที และใหญ่สุดกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตร Power Stroke 258 แรงม้าที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิด 597 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังสเปกออสเตรเลียมีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 6R80 กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 10R80 ในรุ่น 2.0 ลิตร และ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด e-Shifter 10R80 ในรุ่น 2.0 เทอร์โบคู่ Wildtrak, 3.0 V6 XLT, Sport และWildtrak ให้เลือกทั้งรุ่นขับสองยกสูงและขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-Time ตั้งแต่ XL, XLS, XLT เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรทั้งเทอร์โบเดียวและเทอร์โบคู่ พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ normal, โหมดประหยัด, eco, โหมดถนนลื่น slippery, โหมดลากจูงและบรรทุก tow/haul ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อกับขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาพร้อม Terrain Management เพิ่มมาอีกสองโหมดคือ โหมดโคลน mud/ruts และโหมดทราย sand พร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential
ทางด้านรุ่น XLT, Sport และ Wildtrak เครื่องยนต์ 3.0 V6 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Shifter Full Time เกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ Terrain Management System ทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery และยามลุยมีทั้งโหมด Sand, Mud/Ruts เฉพาะรุ่น Sport V6 และ Wildtrak V6 พร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential
Ford Ranger มีให้เลือกทั้งรุ่น Wildtrak 4WD, Sport 4WD, XLT, XLS และ XL ทั้งแบบตอนเดียวหัวกระสือ Open Cab หัวกระสือกับมีกระบะท้าย และ Double Cab Cab หัวกระสือกับมีกระบะท้าย ทั้งขับสองยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ
