Ford Ranger เป็นกระบะที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลียด้วยตัวเลือกที่หลากลายตอบโจทย์สาวกแต่อีกรุ่นย่อยที่อยากให้มานั่นคือ Ford Ranger Stormtrak
ล่าสุดทาง Carsales รายงานว่า Ford ออสเตรเลียได้ยื่นคำขอเครื่องหมายการค้าป้ายชื่อ Ford Ranger Stormtrak ต่อสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลีย หรือ IP Australia เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยทาง Ford ได้กล่าวว่าความต้องการของลูกค้าของ Ford Ranger รุ่นท็อปที่เหนือกว่ารุ่น Wildtrak ยังมีความต้องการไม่สิ้นสุด โดยปัจจุบันกลุ่มรุ่นท็อปๆมีตั้งแต่รุ่น Wlidtrak, Wildtrak X, Platinum และ Raptor แต่ว่าการมาของรุ่น Stormtrack อาจมาแทนรุ่น Wildtrak X ก็เป็นได้เนื่องด้วยรุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นพิเศษหมดแล้วหมดเลย ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผู้บริหาร Ford ออสเตรเลีย หลุดปากไปเมื่อช่วงกลางปี 2022 ว่ารุ่นย่อยของ Ford Ranger จะเพิ่มมาอีกหลังเผยรุ่น Platinum และ Wildtrak X
สำหรับ Ford Ranger Stormtark อาจคล้ายกับสเปกไทยอัปเกรดความเข้ม ความดุดัน ยกระดับการเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบความท้าทายไปอีกขั้น ภายนอกเด่นด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์เฉพาะรุ่นแบบสีดำเงา ติดไฟ AUX Lamp (ทำงานเมื่อเปิดไฟสูง) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในทุกสภาพอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับเวลากลางคืนในชุดกระจังหน้า พร้อมไฟหน้า Matrix LED ปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติแถมป้องกันไฟแยงตาและเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กับไฟวิ่งกลางวัน DRL LED ในโคมเดียวกัน รับกับกันชนหน้าชแต่งเข้มแบบทูโทนสีดำเงา/สีเดียวกับตัวรถและการ์ดเสริมใต้กันชนหน้าสีเงิน ติดไฟตัดหมอก LED
สติ๊กเกอร์ตกแต่งใหม่รอบคันที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกตัวตนของคนที่มีใจรักในความสมบุกสมบัน ล้ออัลลอยลายใหม่สีดำขลิบแดงขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/55 R20 ชุดช่องระบายอากาศกรอบสีดำในบังโคลนหน้าซ้าย-ขวาปักคำว่า Bi-Turbo ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ บันไดข้างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย พื้นปูกระบะท้าย พร้อมช่องต่อไฟ 12V และ 230V (400W) และฝาท้ายแบบผ่อนแรงพร้อมไฟท้าย LED
ติดตั้งราวหลังคาดีไซน์ขนาดใหญ่และสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) ให้ผู้ขับขี่ปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ด้วยเลื่อนจุดล็อกได้ 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียวรองรับการติดตั้งหรือขนย้ายอุปกรณ์เพื่อการผจญภัยและการทำงานได้หลากหลายรูปแบบอย่างง่ายดาย รองรับน้ำหนักสูงสุด 80 กก. (ขณะขับ) และ 250 กก. (ขณะจอด)
ภายในอัปเกรดความเข้มด้วยโทนสีดำ/แดง ตั้งแต่ชุดแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านคู่หุ้มหนัง และชุดเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดำขลิบแดงปักชื่อ Stormtrak โดย เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า สามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมออปชันเดิมทั้ง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB และ ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light ความบันเทิงครบครันด้วย หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ พร้อมระบบ FordPass และช่องต่อ USB 4 จุด กับมาตรวัดดิจิทัลแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ทิศทาง และช่องต่อไฟ 12V พร้อมช่องต่อไฟ 230V (400W) เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold และเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter หุ้มหนัง
ขุมพลังที่จะไปทำตลาดนั้นอาจใช้ดีเซลเทอร์โบ V6 เทอร์โบเดี่ยวในตระกูล Lion รหัส DSL-Lion B 3.0 ลิตร Power Stroke 250 แรงม้าที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 e-Shifter ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time 4WD แบบ e-Shifter (2H,4H,4L และ 4A) มาพร้อมเกียร์ทรานเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ Terrain Management System 7 โหมด ทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery และยามลุยมีทั้งโหมด Sand, Mud/Ruts และมีโหมด BAJA มาด้วย พร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม.และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กก.
Ford Ranger Stormtrak มีแววที่จะเปิดขายที่ออสเตรเลียเร็วๆนี้หรือจนกว่าจะขาย Ford Ranger Wildtrak X จนหมด แล้วว่าค่าตัวที่นั่นจะแพงกว่ารุ่น Platinum หรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carsales