หลังประกาศความพร้อมว่า Lexus RZ450e เอสยูวีไฟฟ้าพร้อมจำหน่ายทั่วโลกปลายปีนี้ ทำให้สาวกเตรียมกำเงินที่จะเป็นเจ้าของสักคัน
ล่าสุดที่ญี่ปุ่นในงาน Le Volan Cars Meet 2022 Yokohama เมื่อไม่นานมานี้ จัดขึ้นโดยนิตยสาร LE VOLANT ได้เผยตัวจริงเสียงจริงครั้งแรกของโลกในเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาสำหรีบเอสยูวีไฟฟ้าคันนี้นำแพลตฟอร์ม e-TNGA ที่เพื่อนร่วมค่ายอย่าง Toyota bZ4X และ Subaru Solterra มาพัฒนาและอัพเกรดเน้นความหรูหราตามสไตล์ Lexus เริ่มที่ กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Spindle Grill ที่มาในแบบปิดทึบ ไฟหน้า LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ LED Day Time รูปตัว L ล้ออัลลอยขนาดใหญ่สไตล์ทูโทนเลือกได้ตั้งแต่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20 และ 255/45R20 โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED แนวยาวคาดตัวอักษร Lexus ขนาดใหญ่ติดท้ายรถโดยมีมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,805 มม. ความกว้าง 1,895 มม. ความสูง 1,635 มม. ฐานล้อ 2,850 มม.
ภายในล้ำสมัยล้ำยุคกับพวงมาลัยแบบครึ่งวงหรือที่เรียกกันว่า Yoke-Style Steering Wheel ซึ่งค่ายรถอย่าง Tesla ก็นำมาใช้แล้ว ในรุ่น Model 3 และยังมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงมาตรฐานให้เลือก ดีไซน์คอนโซลหน้าสไตล์ Lexus แบบ Lexus Tazuna มาพร้อมหน้าจอสัมผัส 14 นิ้ว กับมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วมาด้วย พร้อมความสบาย 5 ที่นั่ง พร้อมวัสดุคุณภาพ พร้อมไฟ Ambient Light ส่องสว่างให้ห้องโดยสารอบอุ่น และหลังคารถแบบ panoramic sunroof สามารถหรี่แสงได้เพื่อประหยัดไฟ
ขุมพลังไฟฟ้าสไตล์ Lexus มีความจุแบตเตอรี่ 71.4 kWh lithium-ion battery พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 204 แรงม้า ในล้อหน้าและ 109 แรงม้าในล้อหลังเมื่อทำงานร่วมกันให้พลังมากถึง 313 แรงม้า แรงบิด 435 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 450 กม. ตามมาตรฐาน J-WLTC ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.6 วินาที แถมกินไฟเพียง 5.56 กม./kWh รองรับการชาร์จทั้งชาร์จช้า AC 6.6 kW และชาร์จเร็ว DC 150 kW พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบ Lexus’ new Direct4 ยังมีระบบส่งกำลัง eAxle แบบกระจายแรงบิด โดยกระจายน้ำหนักของล้อทั้งสี่ได้ตั้งแต่ 0-100 และสามารถตั้งได้หลากหลายทั้งแบบ 20/80, 50/50 และ 75/25 ตามลำดับ ความปลอดภัย Lexus Safety System+ 3.0 ทำงานผ่านกล้อง ADAS
Lexus RZ 450e พร้อมขายทั่วโลกปลายปีนี้ ส่วนญี่ปุ่นนั้นอาจพบกันเร็วๆนี้ จับตาเมืองไทยจะนำเข้ามาขายด้วยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carwatch
