หลังจากแนะนำรุ่นปี 2024 ที่ยุโรป สำหรับ Ford Transit รถตู้ครองใจเจ้าของธุรกิจ องค์กร บริษัทนำเที่ยว ล่าสุดเปิดตัวและเปิดราคาขายที่ออสเตรเลีย
Ford Transit รถตู้ไซซ์ยักษ์ เจเนอเรชันที่ 4 หลังจากปรับโฉมไปแล้วเมื่อปี 2020 งานนี้ปรับรายละเอียดทั้งภายนอก ภายใน ความปลอดภัยและการบรรทุก เริ่มที่ปรับปรุงดิสก์เบรกสี่ล้อใหม่ช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 27 กิโลกรัม กระทะล้อและล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 235/65R16
ภายในปรับใหม่ทั้งระบบความบันเทิง Ford SYNC4 ด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12 นิ้ว เชื่อมต่อระบบ 5G ทำให้การสื่อสารระหว่างการเดินทางขนส่งรวดเร็วขึ้น ช่วยเหลือการขนส่ง หรือ Delivery Assist ขนส่งมากขึ้น 150 ครั้งต่อวัน ย่นระยะเวลาการขนส่งได้เร็วขึ้น 20 วินาทีต่อครั้ง รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ปุ่มสตาร์ดรถข้างคอพวงมาลัยแบบปุ่มกด Keyless start
ไฟฉุกเฉินเปิดใช้งานหลังดับเครื่องยนต์ในกรณีมีงานขนส่งที่เร่งและต้องใช้เวลาอันสั้น เซ็นทรัลล็อกประตูรถทุกบานหลังจากจอดรถแล้ว ระบบเหยียบเบรกขณะสตาร์ทรถซึ่งจะเป็นวิธีป้องกันไม่ให้รถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและอาจจะอยู่ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร EcoBlue ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 390 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,300 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดรหัส ‘8F57’มาแทนลูกเดิม 6 สปีดในรุ่น 350 L ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง 350 L กับ 430 E มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
รวมถึงขุมพลังไฟฟ้าใน Ford E-Transit มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ความจุแบตเตอรี่ 68 kWh ให้กำลังสูงสุด 269 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ทำให้การชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกลสุด 222-307 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ด้านการชาร์จมีสองแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 115 kW ชาร์จ 15-80% ภายในเวลา 34 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11.3 kW ชาร์จ 0-100% ภายในเวลา 8 ชั่วโมง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed
ด้านการบรรทุกมีการอัพเกรดขีดความสามารถในการบรรทุกและการลากจูง เริ่มที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า 350 L เพิ่มความสามารถในการลากจูงหรือ Braked Towing Capacity จากเดิม 950 กิโลกรัม เป็น 2,750 กิโลกรัม และเพิ่มน้ำหนักรถรวมหรือ GCM จากเดิม 1,750 กิโลกรัม เป็น 6,000 กิโลกรัม
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง 350 L เพิ่มความสามารถในการลากจูงจากเดิม 750 กิโลกรัมมาเป็น 3,500 กิโลกรัม และเพิ่มน้ำหนักรถรวมจากเดิม 900 กิโลกรัมเป็น 7,000 กิโลกรัม รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังทั้งแบบรถตู้และหัวกระสือ 430 E เพิ่มความสามารถในการลากจูงจากเดิม 1,100 กิโลกรัมเป็น 3,500 กิโลกรัม และน้ำหนักรถรวมจากเดิม 900 กิโลกรัม เป็น 7,000 กิโลกรัม
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่มาครบครันได้แก่เพิ่มระบบเตือนก่อนการชน Pre-Collision Assist พัฒนาระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB) ให้มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น
ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane keep alert พร้อมควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent speed เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detection System เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ปรับตั้งความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบหยุดและเคลื่อนตัวอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ตรวจวัดลมยาง Tyre pressure monitoring เซนเซอร์กะระยะการจอดทั้งหน้าและหลัง
Ford Transit และ Ford E-Transit MY2024 เปิดราคาขายแล้วที่ออสเตรเลียและเตรียมส่งมอบตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 มาทั้งแบบรถตู้ทึบ, รถตู้กระจก รุ่นฐานล้อยาว LWB และรุ่นฐานล้อยาวกว่า ELWB เลือกได้ทั้งแบบหลังคามาตรฐาน, หลังคาสูง High Roof และรุ่นหัวกระสือ Chassis-Cab
ขาย 6 รุ่นย่อยทั้งรุ่น 350L LWB front-drive van, 350L LWB rear-drive van, 430E dual-rear-wheel ELWB rear-drive van, 420L rear-drive E-Transit van, 430E rear-drive single cab-chassis และรุ่น 410 rear-drive 12-seater bus ในราคาเริ่มต้น $59,990- $104,990 โดยราคานี้ไม่รวมค่า on-road หรือราว 1,455,000-2,545,000 บาท
ที่มา Carexpert
