Mazda ใช้เวทีงาน Big Motor Sale 2023 เปิดตัว Mazda CX-3 รุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2023 อย่างเป็นทางการด้วยการปรับคุลใหม่เข้มขึ้นโดนใจคนเมือง
สิ่งที่ต่างจากรุ่นเดิม ปรับลุคใหม่ให้สปอร์ตขึ้นสำหรับ Mazda CX-3 MY2023 ตั้งแต่ กระจังหน้าซิกเนแจอร์วิงสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ซุ้มล้อสีดำเงา และหลังคาสีดำเงา และมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R18 พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ LED Daytime ไฟท้าย LED Signature ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กันชนหน้า-หลังสปอร์ต ล้ออัลลอยสีขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 คิ้วชายล่างโครเมี่ยมที่มุมกันชนหน้า-หลัง ประตูรถ และช่วยให้เปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมาพร้อมความโดดเด่นไม่ซ้ำใครในรุ่น Sport Luxe ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ พร้อมกรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน มาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานเร้าใจ
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว มอบความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger รวมถึงเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระออกจากกัน พร้อมพนักวางแขนและที่วางแก้วแบบมีฝาปิด
นอกจากนี้ยังมอบความเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันด้วยระบบเสียง Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง เพิ่มสุนทรียภาพให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง ปุ่มควบคุม Center Commander พร้อมคอนโซลกลางพร้อมพนักวางแขนพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง พนักวางแขนด้านหลังตรงกลางพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto Hold
เครื่องยนต์ยังคงเดิมด้วยเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร รหัส PE 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 204 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด เปลี่ยนเกียร์ทันใจด้วย Activematic สามารถเลือกโหมดขับขี่ Sport ได้จากปุ่ม Drive Selection พร้อมระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวขณะจอดนิ่ง i-STOP
ควบคุมการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) พร้อมความปลอดภัยครบครัน ทั้ง ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น พร้อมระบบความปลอดภัย i-Activsense ด้วยออปชันใหม่ดังนี้
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) (เฉพาะรุ่น Sport Luxe)
- เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) (เฉพาะรุ่น Sport Luxe)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R) (เฉพาะรุ่น Sport Luxe)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) (ยกเว้นรุ่น Base)
- เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) (ยกเว้นรุ่น Base)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) (ยกเว้นรุ่น Base)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบ Stop & Go (MRCC with Stop & Go) (เฉพาะรุ่น Sport Luxe)
พร้อมออปชันความปลอดภัยเดิมทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) (เฉพาะรุ่น Comfort และ Sport Luxe), เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) (เฉพาะรุ่น Comfort และ Sport Luxe), 360o View Monitor พร้อมมุมกล้องในแบบ Top View ระบบกล้องแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (เฉพาะรุ่น Comfort และ Sport Luxe), เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า-หลัง 4 จุด (เฉพาะรุ่น Comfort และ Sport Luxe และด้านหลังในรุ่น BASE PLUS)
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น Base), ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น Base), สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันหัน ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM), ถุงลงนิรภัยคู่ (ทุกรุ่น), ถุงลมนิรภัยด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น Comfort และ Sport Luxe), ล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เป็นออปชันมาตรฐาน(ยกเว้นรุ่น Sport Luxe), ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control), ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist), ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล TCS (Traction Control System), ป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
Mazda CX-3 MY2023 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray)สีภายนอกใหม่, สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Machine Gray, สีขาว Snowflake White Pearl, สีเทา Polymetal Gray, สีดำ Jet Black และสีบรอนซ์ Platinum Quartz โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้
- รุ่น BASE ราคาจำหน่าย 770,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 1,000 บาท)
- รุ่น BASE PLUS ราคาจำหน่าย 830,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 21,000 บาท)
- รุ่น COMFORT ราคาจำหน่าย 900,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 21,000 บาท)
- รุ่น Sport Luxe ราคาจำหน่าย 970,000 บาท (รุ่นใหม่)