More

    MG ZS EV 2023 เอสยูวีไฟฟ้าขายแล้วที่แดนจิงโจ้ เริ่ม 1.112 ล้านบาท

    หลังจากเปิดตัวในไทยและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจนต้องติดปิดรับจองชั่วคราวเน้นการส่งมอบมากขึ้นสำหรับ MG ZS EV รุ่นปรับโฉม

    MG

    ล่าสุด ออสเตรเลีย เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยนำเข้าจากจีนเช่นเดียวกับที่ส่งมาขายในไทย ด้วยหน้าตาทุกอย่างเหมือนสเปกไทยตั้งแต่ กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ทรงปิดทึบ พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ด้านซ้ายของ โลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่าง Daytime Running Lights ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อม ราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ และเสาอากาศแบบเส้นยาวสีดำเฉพาะสเปกออสเตรเลีย

    MG

    ภายในเหมือนสเปกไทยตั้งแต่ชุดแผงคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันตั้งแต่ ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ลำโพงมีให้เลือกทั้งแบบ 4 จุด และ 6 จุด เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ โดยมีพื้นที่จุของ 448 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะลง 60/40 จะมีพื้นที่มากขึ้นเป็น 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบกรองอากาศ กระจกมองหลังตัดแสง ที่พักแขนด้านหลัง กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start พร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน

    MG

    ขุมพลังไฟฟ้าเหมือยสเปกไทย ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWh  ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.2 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งที่ 403 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 320 กม. ตามาตรฐาน WLTP พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ดิสก์เบรก 4 ล้อ

    MG

    ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge โดยชาร์จแบบเร็ว Quick Charge DC ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 54 นาที โดยมีกำลังไฟ 50 kW และชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge AC กำลังไฟ 11 kW 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง พร้อมการจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

    MG

    ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน MG Pilot ได้แก่ ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic sign recognition) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)  ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)

    เฉพาะรุ่น Essence  เพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยทั้ง ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) และ ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) และช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)

    นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานอาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TMPS) ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home Light) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

    MG

    MG ZS EV มีขายด้วยกันถึงสองรุ่นย่อยทั้งรุ่น Excite และรุ่น Essence ราคาเริ่มต้นที่ $44,990-$47,990 หรือราว 1,112,000- 1,185,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว Dover White สีดำ Pebble Black สีน้ำเงินBrighton Blue metallic สีเงิน Sloane Silver metallic และสีแดง Diamond Red metallic ในขณะที่เมืองไทยจำหน่าย MG ZS EV มีสองรุ่นย่อยเช่นเดียวกับออสเตรเลีย มีค่าตัวดังนี้

    – รุ่น D ราคาปกติ 1,189,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 949,000 บาท

    – รุ่น X ราคาปกติ 1,269,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,023,000 บาท

     

    ที่มา Carexpert

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts