รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เติบโตลดลงด้วยยอดขาย 71,551 คัน ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยประเด็นสำคัญ แม้ตัวเลขรวมลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง แต่ตลาดรถยนต์นั่งเติบโตด้วยยอดขาย 24,867 คัน เพิ่มขึ้น 10.1% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 46,648 คัน ลดลง 10.0% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้จำนวน 33,635 คัน ลดลง 18.8% ทางด้านตัวเลขการขายสะสม 2 เดือน มีสถิติการขายลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขการขาย 137,130 คัน เป็นผลมาจากแนวโน้มความต้องการซื้อรถกระบะในภาคขนส่งเริ่มอิ่มตัวเมื่อเทียบกับความเคลื่อนไหวของตลาดในปีที่ผ่านมา
ในขณะที่ช่วงนี้หลายค่ายรถยนต์มีการเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ที่ดึงดูดความสนใจจากลูกค้า รวมทั้งความต้องการในการใช้ “รถยนต์ส่วนบุคคล” เพื่อเพิ่มความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของลูกค้า
ตลาดรถยนต์ในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้น จากการฟิ้นตัวของสภาพเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว ทำให้เกิดความต้องการใช้รถยนต์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่หลายรุ่น โดยมีแคมเปญส่งเสริมการขาย “เงื่อนไขเดียวกับมอเตอร์โชว์” เพื่อปูทางไปสู่การขายในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 44 ช่วงปลายเดือนมีนาคม ภายใต้ข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี เป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยผลักดันอัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์อย่างมีนัยสำคัญ
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกุมภาพันธ์ 2566
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 71,551 คัน ลดลง 3.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,612 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,375 คัน ลดลง 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 21.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 8,705 คัน เพิ่มขึ้น 22.8% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,867คัน เพิ่มขึ้น 10.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,463 คัน เพิ่มขึ้น 55.4% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,660 คัน เพิ่มขึ้น 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 22.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,873 คัน เพิ่มขึ้น 6.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 46,684 คัน ลดลง 10.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,149 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,375 คัน ลดลง 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,590 คัน เพิ่มขึ้น 73.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 33,635 คัน ลดลง 18.8%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,134 คัน ลดลง 24.4% ส่วนแบ่งตลาด 42.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,582 คัน ลดลง 18.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,590 คัน เพิ่มขึ้น 73.8% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 6,307 คัน อีซูซุ 2,149 คัน -โตโยต้า 2,138 คัน– ฟอร์ด 1,448 คัน – มิตซูบิชิ 456 คัน – นิสสัน 116 คัน
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,328 คัน ลดลง 23.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,985 คัน ลดลง 29.6% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,444 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,142 คัน เพิ่มขึ้น 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 137,130 คัน ลดลง 4.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 49,408 คัน เพิ่มขึ้น 4.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 30,026 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 21.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 15,776 คัน เพิ่มขึ้น 1.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 47,731 คัน เพิ่มขึ้น 3.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,127 คัน เพิ่มขึ้น 57.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 10,733 คัน ลดลง 7.2% ส่วนแบ่งตลาด 22.5%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,429 คัน ลดลง 8.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 89,399 คัน ลดลง 8.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 31,281 คัน ลดลง 12.1% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 30,026 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 6,966 คัน เพิ่มขึ้น 52.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 65,406 คัน ลดลง 14.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 27,677 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 42.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 26,184 คัน ลดลง 15.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 6,966 คัน เพิ่มขึ้น 52.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 11,783 คัน โตโยต้า 4,391 คัน – อีซูซุ 3,872 คัน – ฟอร์ด 2,378 คัน – มิตซูบิชิ 927 คัน – นิสสัน 215 คัน
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 53,623 คัน ลดลง 18.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 23,805 คัน ลดลง 20.2% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 21,793 คัน ลดลง 16.0% ส่วนแบ่งตลาด 40.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,588 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%