More

    Toyota GR Corolla แรงเต็มคาราเบล ขายญี่ปุ่นเริ่ม 1.359 ล้านบาท

    หลังจากทีโชว์ตัวให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้จักและมีแผนที่จะขายในช่วงเดือนกันยายนและธันวาคม สำหรับ Toyota GR Corolla Hot Hatch ค่ายสามห่วง

    Toyota

    โดยเป็นการเปิดรับจองผ่านดีลเลอร์ทั่วญี่ปุ่น แต่ด้วยเรื่องโควิด-19 และ ขาดแคลนเซมิคอนดั๊กเตอร์ ทำให้ Toyota ตัดสินใจเลื่อนการขายเจ้า Hot Hatch คู่ปรับ Honda Civic Type R เป็นช่วงต้นปี 2023 สำหรับ Toyota GR Corolla ทั้งรุ่นปกติ RZ และรุ่นพิเศษ Morizou Edition ทุกอย่างเหมือนกันทั้งกระจังหน้าทรงคุ้นเคยพร้อมโลโก้สามห่วง ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED รูปตัว L ดัดแปลงกันชนหน้าให้สปอร์ตมากขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เสริมสเกิร์ตในตัวบังโคลนหน้ามีช่องดักลมสุดเท่สุดเข้มด้วยสีดำแปะตราโลโก้ GR รวมถึงสเกิร์ตข้างที่เขียนว่า GR-Four ที่เป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตกแต่งทั้งคันด้วยซุ้มล้อทรงโตกับล้ออัลลอยสีเข้ม 18 นิ้วพร้อมยาง 235/40R18 โดยสเปคญี่ปุ่นใช้ยางยี่ห้อ YOKOHAMA ADVAN APEX V601 ผิดกับทั่วโลกใช้ยาง Michelin Pilot Sport 4 ด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้าย LED เติมเต็มความโดดเด่นให้สมบูรณ์ กับกันชนหลังพร้อมลิ้นสปอยเลอร์สุดโหด และได้หลังคารถแบบตกแต่งด้วยคาร์บอนสีดำ

    สำหรับรุ่นพิเศษ Morizou Edition ตัดที่ปัดน้ำฝนด้านหลังออกไป สปยอเลอร์ดีไซน์ต่างจากรุ่น RZ รวมถึงสีภายนอกแบบ Matt Steele ลายเซ็น Morizou ที่กระจกหน้ารถโดยชื่อนี้เป็นชื่อเล่นของ Akio Toyoda ประธานโตโยต้า ยางติดรถมาเพิ่มความกว้างหน้ายางมาอีก 10 มม. เป็น 245/40R 18 จาก Michelin PILOT SPORT CUP 2 โดยตัวรถสร้างขึ้นจากพื้นฐาน TNGA-C มีขนาดที่ดูแล้วดุดันใหญ่โตด้วยความยาว 4,410 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,480 มม. ในรุ่น RZ และ 1,475 มม. ในรุ่น Morizou Edition ฐานล้อ 2,640 มม. และน้ำหนักรถในรุ่น RZ 1,470 กก. และรุ่น Morizou Edition หายไปอีก 30 กก. เป็น 1,440 กก.

    Toyota

    ภายในมีทั้งระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว Toyota Audio Multimedia คมชัดละเอียดแบบ high-res touchscreen display ลำโพงคุณภาพมากสุด 6 ตัว และ JBL 8 ตัว มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบ 7 นิ้ว ระบบข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display เบาะนั่งสปอร์ตปักโลโก้ GR หุ้มด้วยวัสดุผ้าเดินด้ายสีเทา และหนัง Brin Naub เดินด้ายแดงให้เลือก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านยกชุดจาก Toyota GR Yaris ชุดแป้นคันแร่งและเบรกแบบอะลูมิเนียมสีเงิน เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และที่ชาร์จมือถือไร้สาย

    สำหรับรุ่น Morizou Edition ใช้เบาะนั่งโครงสร้างพิเศษดีไซน์แบบรถแข่งเพื่อการขับขี่มั่นใจและแม่นยำ แผงคอนโซลหน้าและแผงประตูตกแต่งพิเศษสีดำ สำหรับวัสดุหนังกลับตกแต่งในส่วนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงหัวเกียร์และด้ามเบรกมือคันโยก เดินด้ายแดงแถมยังถอดเบาะหลังออกไปเสริมโครงค้ำตัวถังรูปตัว U

    Toyota

    ขุมพลังแน่นอนว่ายกมาจาก Toyota GR Yaris กับพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS 3 สูบ 12 วาล์ว ให้กำลังมากสุด 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 370 นิวตันเมตรที่ 3,000-5,500 รอบ/นาทีในรุ่น RZ  ส่วนรุ่น Morizou Edition พื้นฐานเครื่องเหมือนกันแรงม้าเท่ากัน 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แต่แรงบิดปรับขึ้นเป็น 400 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบ/นาที ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four AWD เลือกการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ Normal (60/40) Sport (30/70) และ Track (50/50) ให้เหมาะสมกับสภาพถนนแยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง พร้อม Torsen® LSD (Limited Slip Differential) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลัง ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลตลอดเวลา

    Toyota

    ช่วงล่างแบบ GR ปรับแต่งเป็นพิเศษทรงตัวและยึดเกาะได้อย่างมั่นคงด้วยความเร็วสูงประกอบด้วยช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และ คอยล์สปริงออกแบบใหม่ ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ พร้อมจากดิสก์เบรกหน้า 4 Pot ขนาด 356 มม. และด้านหลัง 2 Pot ขนาด 297 มม. ส่วนรุ่น Morizou Edition ลดอัตราทดเกียร์เพืองท้าย เพิ่มประสิทธิภาพเกียร์ iMT ให้เร้าใจขึ้น ฝากระโปรงหน้าทำจากอะลูมิเนียมและแผงประตูหน้าอะลูมิเนียม ลดการเพิ่มของน้ำหนักรถได้และความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0

    Toyota

     

    Toyota GR Corolla มีราคาจำหน่ายดังนี้ 5,250,000 Yen หรือราว 1,359,000 บาท สำหรับรุ่น RZ และ 7,150,000 Yen สำหรับรุ่น Morizo ​​Edition จำนวนจำกัด 200 คัน หรือราว 1,849,000 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้ารวมภาษีนำเข้าของไทยจะอยู่ที่ 3,909,000 และ 5,319,000 บาท ตามลำดับ โดยก่อนที่จะขายจริงช่วงต้นปีหน้า ทาง Toyota เกิดปิ๊งไอเดียการขายเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นซื้อสลากหรือล็อตเตอรี่สุ่มผู้โชคดีที่จะได้รับรถไป โดยจัดสรรรถเพียง 500 คัน (allocation) ซื้อสลากออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 2-19 ธันวาคมเวลา 8.59 น.และประกาสผู้โชคดีในวันที่ 13 มกราคม พร้อมส่งมอบช่วงมีนาคมปีหน้า

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts