เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ BYD Dolphin Honor Edition ความหวังใหม่ของค่าย BYD เพื่อเอาใจคนเมืองที่ชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร
BYD Dolphin Honor Edition รุ่นพิเศษหรือเรียกว่ารุ่น MY2024 ว่ากันว่าปรับภาพรวมของรถให้ใกล้เคียงกับรถเวอร์ชันส่งออกไปทำตลาดที่ยุโรป อัปเกรดใหม่เริ่มที่ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60 R16 ติดตั้งกระจกแบบ privacy glass สำหรับประตูคู่หลัง ภายใต้แนวคิด X Dream Concept
พร้อมออปชันเดิมด้วยหน้าตาทันสมัยด้วยสีทูโทน ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime แบบ LED กระจังหน้าทรงทึบติดตราตัวอักษร BYD ที่จับประตูดีไซน์ยกก้าน กระจกมองข้างมทรงสปูนปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Heated Mirror และหลังคาแบบ Panoramic Roof ไฟท้าย LED
ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 กับมิติตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,125 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,770 มิลลิเมตร ความสูง 1,570 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,780-1,825 กิโลกรัม
ภายในเพิ่มออปชันด้วยที่เสียบชาร์จ USB Type-C และที่ชาร์จไร้สายความเร็ว 50 W เบาะนั่งทรงสปอร์ตคู่หน้าเพิ่มระบบระบายอากาศ พร้อมการตกแต่งสีสันพิเศษเช่น ชุดแต่งบนแผงคอนโซลหน้าที่ช่องแอร์ซ้าย-ขวา มีระบบโต้ตอบด้วยเสียงอัจฉริยะ สตาร์ทรถอัจฉริยะ กว้างสบายแบบ 5 ที่นั่ง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และคนนั่งปรับธรรมดาแบบสี่ทิศทาง
เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 เพิ่มปริมาตรได้สูงสุดถึง 1,310 ลิตรและมีพื้นที่ด้านหลังอีก อีก 345 ลิตร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน มือจับเปิดประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมา จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนได้แบบแนวนอนและแนวตั้ง และมาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว
ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นใหม่แบตเล็กสุด 32.2 kWh 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC
ขยับมาอีกเป็นรุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็น 44.9 kWh แรงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร เพิ่มระยะทางใหม่ วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จผ่านไฟ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW 0-100% ภายใน 7.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที
อีกรุ่นมีความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 44.9 kWh แรงเท่าเดิม 177 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 401 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 3 วินาที
การชาร์จผ่านไฟ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW 0-100% ภายใน 7.5 ชั่วโมง การชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และรุ่นความจุแบต 60 kWh วิ่งไกล 520 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน CLTC จะตามมา
มาพร้อมช่วงล่างพัฒนาใหม่จากเดิมทอร์ชันบีมมาเป็นอิสระสี่ล้อใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) และความปลอดภัยครบครัน ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ได้แก่ ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and go ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW) ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS) ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW, RCW) ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB) ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP) ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA) ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 จุด ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา รุ่นปรับปรุงใหม่ ของค่าย BYD มีกันถึงสี่รุ่นย่อยเริ่มที่ 99,800-129,800 yuan หรือราว 500,000-655,000 บาท พร้อมสองสีใหม่สีน้ำเงินหลังคาดำ และสีครีมหลังคาดำ และสีโมโนโทนอีกแปดสี
ที่มา Car News China