คราวนี้มาถึงออลนิวสายหล่อเวอร์ชันตัวเตี้ยกับ ISUZU X-Series SPEED คราวนี้มาในสไตล์ใหม่สะท้อนตัวตนของผู้ใช้รถรุ่นใหม่ให้ออกไปโลดแล่นนอกกรอบ
ด้วยการนำพื้นฐานของรุ่น LDA เสริมเท่เสริมความดุไปอีกขั้นด้วยชุดแต่ง The X Package อาทิ กระจังหน้าโทนเข้มเขี้ยวเข้ารูปสองชั้นตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง Dual Stripes พร้อมออปชันยกมาจาก D-MAX ปกติทั้ง ไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ผสมผสานดีไซน์ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED สเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated สเกิร์ตข้างดีไซน์เฉพาะตัว ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สีดำ Gloss Black พร้อมยางขนาด 215/70R16
มิติตัวรถในรุ่น 4 ปรับเล็กน้อยตั้งแต่ความยาว 5,230 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร ความสูง 1,700 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน 1,555 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร. น้ำหนักรถ 1,770 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร มิติกระบะท้ายนั้นมีขนาดพอดีตั้งแต่ ความยาว 1,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,530 มิลลิเมตร ความสูงในกระบะท้าย 490 มิลลิเมตร เมื่อเทียบรุ่นเดิมความยาวตัวรถมากกว่า 35 มิลลิเมตร น้ำหนักรถเพิ่มขึ้น 15 กิโลกรัม นอกนั้นเหมือนเดิม
มิติตัวรถในรุ่น 2 ประตู เท่ากับรุ่น 4 ประตูทั้งความยาว ความกว้าง ความสูง ระยะฐานล้อ และความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลัง และความสูงจากใต้ท้องรถ และความจุถังน้ำมันเท่ากัน ต่างที่น้ำหนักรถ 1,735 กิโลกรัม มิติกระบะท้ายมีขนาดยาวบรรทุกถึงใจตั้งแต่ ความยาว 1,805 มิลลิเมตร กว้าง 1,530 มิลลิเมตร ความสูงในกระบะท้าย 490 มิลลิเมตร เมื่อเทียบรุ่นเดิมพบว่าน้ำหนักรถเพิ่มขึ้น 5 กิโลกรัม นอกนั้นเหมือนเดิม
ภายในตกแต่งสไตล์ X เริ่มที่ คอนโซลหน้าดีไซน์เร้าใจแบบสีดำ-แดง หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ดีไซน์สปอร์ตโทนแดง รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple Car Play (เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งาน) พร้อมระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทางแบบ Tilt & Telescopic ดีไซน์ใหม่ ระบบเสียงรอบทิศทางเลือกได้ตั้งแต่ 6 จุด และ 8 จุด Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Semi Mode Control สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 และไฟส่องแผนที่พร้อมกล่องเก็บแว่นตาบนแผงหลังคาขึ้นรูป ช่องเสียบชาร์จ Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็ว
ติดตั้งมาตรวัดสีดำแดงสไตล์เรซซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก้ X คอนโซลหน้าดีไซน์แบบ Flaming Wing เพิ่มความเร้าใจแบบสีดำ-แดง เบาะนั่งหุ้มผ้ากำมะหยี่สีดำ-แดง พร้อมโลโก้ X มาตรวัดขนาดใหญ่ พร้อมจอแสดงข้อมูลสไตล์เรสซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก้ X
ขับสนุก แรงได้ตามใจ เวิร์สไหนก็ไปได้สุดกับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 1.9 ลิตร รุ่น RZ4E-TC GEN2 ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift และตำแหน่งเครื่องยนต์แบบ Semi-Midship การกระจายน้ำหนักที่สมดุล
มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยทั้งระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน BA กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB
ISUZU X-Series SPEED มีสีภายนอกทั้งหมดสองสีทั้ง สีดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เพิ่มเงิน 7,000 บาท และสีขาวไซบิเรียนไวท์ Siberian White พบตัวจริง 3 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น SPEED 1.9 LDA 4 Door ราคา 844,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 20,000 บาท)
- รุ่น SPEED 1.9 LDA 2 Door ราคา 748,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 15,000 บาท)