เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าตัวหรูของ เกีย สำหรับ KIA EV9 เอสยูวีรุ่นใหญ่แดนโสมที่มอบประสบการณ์การใช้งานระดับ ‘พรีเมียม สมาร์ท’
KIA EV6 มาในร่างเอสยูวีรุ่นเรือธงออกแบบทรงกล่องมาตรฐานของรถเอสยูวีลอกแบบมาจากต้นแบบเมื่อช่วงปีกลายโดดเด่นแบบเดียวกับรถยุโรปตั้งแต่ ไฟหน้า LED ทรงตั้งประกบกับกระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์แบบหน้าเสือหรือ digital tiger face ทรงปิดทึบ
รับกับคิ้วขอบกระจังหน้าสีเงินโครเมียมแวววาวกันชนหน้าดีไซน์เล่นระดับซุ้มล้อสีดำดีไซน์เหลี่ยมดูทะมัดทะแมง คิ้วชายล่างประตู ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED เสา C ขนาดใหญ่ไฟท้าย LED แนวยาวเรียวทรงเลขสาม กันชนหลังที่ลงตัว
สปอยเลอร์บนกระจกหลังดีไซน์ดุดัน เสาอากาศครีบฉลาม ซันรูฟ แบบ 2 บาน บริเวณด้านหน้า และหลังฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมการตกแต่งเฉพาะรุ่น เริ่มที่รุ่น Earth Long Range มาพร้อมชุดตกแต่งภายนอกสีเงิน Satin Silver ราวหลังคาเนียนเรียบกับหลังคารถแบบ Bridge type สีเงิน และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วพร้อมยาง 275/50 R20 ส่วนรุ่น GT-Line AWD ราวหลังคามีช่องแบบ Low Profile type สีดำ และล้อขนาดใหญ่ 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 285/45R21 จากค่าย Continental ในรุ่น GT-Line AWD
ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) ตั้งแต่ความยาว 5,010-5,015 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,980 มิลลิเมตร ความสูง 1,755-1,780 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 177 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,312-2,636 มิลลิเมตร
ภายในให้ความสบายแบบ 6 ที่นั่ง 3 ตอน สามารถปรับที่นั่งได้ 2 แบบสําหรับแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้พื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด และสำหรับรุ่น Earth Long Range มาพร้อมนวัตกรรมเบาะนั่งปรับหมุนได้ 180 องศา ครั้งแรกที่นำเสนอฟังก์ชันนี้ในกลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ในไทย ช่วยให้ผู้โดยสารภายในสามารถโต้ตอบ เชื่อมต่อ และสื่อสารกับคนที่คุณรักได้
สำหรับรุ่น GT-Line AWD มาพร้อมเบาะนั่งพักผ่อนระดับเฟิร์สคลาสที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น ด้วยที่นั่งแบบเลานจ์ที่มีที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบอุ่น และสามารถระบายอากาศได้ ซึ่งเป็นเบาะนั่งผู้โดยสารในแถวที่สองแบบ Relaxation ที่ดีที่สุด มาพร้อมฟังก์ชันการนวดต่างๆ
เบาะนั่งตอนที่ 3 แบบ 50/50 พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายตั้งแต่มีพื้นที่ว่าง 333 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ 828 ลิตร กรณีพับเบาะตอนที่สาม และมากสุด 2,318 ลิตร กรณีพับเบาะตอนที่สองกับตอนที่สาม เบาะนั่งผู้ขับและผู้โดยสาร ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ ระบบอุ่นเบาะ ในรุ่น GT-Line AWD เบาะนั่งมาแบบ Relaxation พร้อมเบาะรองขา และระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับ
คอนโซลหน้าดีไซน์แนวนนอนพร้อมจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัว‘Panoramic Wide Display’ ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วและจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Display 5.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย อัปเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA พร้อม Kia Connect ระบบตรวจสอบสถานะรถ ช่วยให้สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ลำโพงมี 8 จุด ในรุ่น Earth Long Range พร้อมปุ่มการใช้งานที่ง่ายๆ
เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่ม Auto Hold ที่ชาร์จมือถือไร้สาย สวิตช์เกียร์แบบ Column-type Shift by Wire พร้อม Paddle Shift ปรับการทำงานของ Regenerative Brake พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ดีไซน์ล้ำอนาคตแบบสี่ก้านปรับระดับ 4 ทิศทาง ไฟสร้างบรรยากาศ ambient light มากถึง 64 สี
เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 3 โซน ซ้าย-ขวาพร้อมแอร์หลังสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ยังสามารถสั่งสตาร์ทรถในระยะไกลและสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศจากระยะไกลได้ Remote Smart Parking กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
พิเศษในรุ่น GT-Line AWD มาพร้อมออปชันที่เหนือกว่าไม่ว่าจะเป็น ลำโพง 14 จุดจากค่าย Meridian จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD แป้นคันเร่งและเบรกตกแต่งด้วยวัสดุโลหะ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ดีไซน์ล้ำอนาคตแบบสี่ก้านปรับระดับ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ม่านบังแดดบริเวณหน้าต่างประตูหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงภาพด้านหลังและวัสดุหุ้มหลังคา แผงบังแดดแบบพรีเมียม
ขุมพลังไฟฟ้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ด้วยความจุแบตเตอรี่ 99.8 kWh มาพร้อมสองทางเลือกสองความแรงเริ่มที่รุ่น Earth Long Range มาแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.4 วินาที วิ่งไกลสุด 680 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NDEC ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รุ่น GT-Line AWD มาแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยความจุแบตเตอรี่เท่ากัน ให้กำลัง 192 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ในส่วนมอเตอร์ล้อหน้าและล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงถึง 384 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.3 วินาที วิ่งไกลสุด 647 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NDEC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลากหลายทั้งแบบ Normal Mode / ECO Mode / Sport Mode และ Smart Mode ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 speed Reduction Gear พร้อมระบบ i-Pedal – One Pedal Driving Function
ทั้งสองรุ่นชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC ชาร์จเร็ว 10-80% รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 350 kW ชาร์จเร็ว 24 นาที สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 450 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้า รองรับกำลังไฟในการชาร์จ 11 kW 10-100% ได้ประมาณ 9.45 ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ CCS Type 2 และ AC แบบ Type 2 ยังชาร์จ V2L สามารถต่อกระแสไฟ จากรถยนต์ไปพ่วงใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้
พร้อมเทคโนโลยี DRIVE WiSE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบ Active Safety ช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดทุกการเดินทางทั้งระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรฝัน SCC (Smart Cruise Control with Stop & Go) ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BCA (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
แสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ BVM (Blind-Spot View Monitor) แจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง RCCA (Rear Cross Traffic Collision Avoidance) ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร LFA (Lane Following Assist) และ LKA (Lane Keeping Assist)
ป้องกันการชนด้านหน้าพร้อม ตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist – FCA 2.0) ป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA (Safe Exit Assist) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Braking) ช่วยป้องกันการชนขณะถอยจอด PCA (Parking Collision-Avoidance Assist) และแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Occupant Alert)
กล้องมองภาพรอบคัน SVM (Surround View Monitor) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBA (High Beam Assist) เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด เบรก ABS + EBD
ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (TSA) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) ควบคุมเบรกขณะลงทางลาดชัน (DBC) และรุ่น GT-Line AWD มีระบบรักษาความสูงท้ายรถอัตโนมัติ Self Levelizer
KIA EV9 นำเข้าจากเกาหลี มีทั้งหมดสี่สีได้แก่ สีน้ำเงิน Ocean Blue สีดำ Aurora Black Pearl สีเทา Pebble Gray และสีขาว Snow White Pearl มาพร้อมการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี รวมถึงฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี
สําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง GT-Line AWD ในเดือนมีนาคม จะเริ่มส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน และสําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Earth Long Range ตั้งเป้าที่จะส่งมอบได้ภายในเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป มีให้เลือกใน 2 รุ่น ได้แก่
- รุ่น Earth Long Range ราคา 3,499,000 บาท
- รุ่น GT-Line AWD ราคา 3,899,000 บาท