ถึงแม้จะเห็นภายนอกอันเลิศหรูของโรสเตอร์เปิดประทุนพลังอีวีอย่าง MG Cyberster ที่ค่ายนี้หวนกลับมาทำรถสปอร์ตอีกครั้งหลังหยุดยาวไปหลายปี
ล่าสุดทาง MG เผยภาพภายในอย่างเป็นทางการหลังมีภาพหลุดโผล่มาเมื่อช่วงต้นปีที่ดูแล้วไม่ต่างกันโดยถอดแบบมาจากต้นแบบแต่ปรับดีไซน์ให้ใช้งานง่ายจับสะดวกตามสไตล์แบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกันแผงคอนโซลหน้ามีแผงจอแสดงดิจิทัลขนาดใหญ่ LCD เป็นทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสในตัวพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านกลับมาใช้แบบท้ายตัดหรือทรง D Shape แล้ว
ซึ่งก็ต้องลุ้นกันว่าพวงมาลัยสไตล์ Yoke-Style Steering หรือพวงมาลัยแบบครึ่งวงนั้นจะเป็นออปชันเสริมหรือไม่แต่ยังมีปุ่มโหมดการขับขี่ Super Sport สีแดงไว้ด้วยคอนโซลกลางประดับด้วยแผงควบคุมต่างๆรวมถึงคันเกียร์รวมถึงดีไซน์เกียร์อัตโนมัติเป็นแบบปุ่ม Shift By Wire ถัดลงมาเป็นสวิตช์เปิด-ปิดหลังคารถ ที่วางแก้วน้ำและเบาะนั่งสปอร์ตแบบ Zero-gravity Seat โดยรวมของภายในจะคล้ายกับรถมัสเซิลคาร์แดนมะกันอย่าง Chevrolet Corvette C8 ส่วนทางเบรกมือไฟฟ้าอยู่หลังพวงมาลัยใต้มาตรวัดนั่นเอง
MG Cyberster เป็นรถสปอร์ตอีวีสมรรถนะสูงหลังหมดยุค MG TF หน้าตานั้นได้ MGB Roadster เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์หล่อด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45R19 และยางหลัง 275/40R19 หรือ 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R20 และยางหลัง 275/35R20
ด้านท้ายแบบ Kammback ชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร สปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันลงตัวด้วยกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ และประตูรถออกแบบมาเปิดแบบปีกนกหรือ Scissor Doors ตัวรถมีความยาว 4,535 มม. ความกว้าง 1,913 มม. ความสูง 1,329 มม. ระยะฐานล้อ 2,690 มม. และน้ำหนัก 2,075 และ 2,210 กก.
ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมมากสุด 544 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าให้กำลัง 204 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าหลังให้กำลัง 340 แรงม้า สามารถวิ่งไกลสุด 800 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาทีพร้อมความจุแบตเตอรี่ 77 kWh และยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลังรวมมากสุด 314 แรงม้า จากความจุแบตเตอรี่ 64 kWh โดยให้ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
โดยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium-ion battery พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัปเกรดแบบ Active-upgrading และ Smart Cockpit และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 MG Cyberster โชว์ตัวพร้อม MG4 Electric XPOWER (MG4 EV XPOWER) ในงานแสดงรถแรงแห่งปี Goodwood Festival of Speed 2023 ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ที่อังกฤษ และจ่อขายอังกฤษกลุ่มประเทศโซนยุโรปช่วงกลางปี 2024 ส่วนเมืองไทยภายในปี 2024 ได้พบกัน
ที่มา Motor 1