More

    MG4 XPower อีวีสายดาร์ก 435 ม้า มาไทยมีนาคมคาดค่าตัวล้านต้นๆ

    รถใหม่ค่าย MG นอกจาก MG4 Electric ประกอบไทยกับ MG Cyberster แล้วเตรียมพบกับ MG4 XPower อีวีขับเคลื่อนสี่ล้อแน่นอน

    ดีไซน์ภายนอก Exterior

    ความแตกต่าอยู่ที่ชุดแต่งรอบคันตั้งแต่หลังคาดำกับตัวรถสีเขียว Racing Green ล้ออัลลอยเข้มสีดำทูโทนปัดเงาห้าก้านขนาด 18 นิ้วหุ้มยางแก้มเตี้ยขนาด 235/45R18 ของค่าย Bridgestone รุ่น Turanza T005 EV พร้อมคาลิปเปอร์เบรก “XPOWER” สีส้ม นอกนั้นคงเดิมทั้งไฟหน้า LED ดีไซน์หกเหลี่ยม พร้อมไฟ DRL แบบ LED กับกระจังหน้าดีไซน์ ‘shark-nosed’ เส้นแนวตั้ง 2 เส้น Fins รวมอยู่ในชุดกันชนหน้า คิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำตัดกับลวดลายสีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูน ไฟท้าย LED แนวตั้งพาดยาวครอบทั้งฝาท้ายพร้อมสปอยเลอร์หลังและกันชนหลังทรงสปอร์ต

    จากพื้นฐานแพลตฟอร์ม Modular Scalable Platform (MSP) ของ SAIC Motor ทำให้ตัวรถดูมีมิติและสมส่วนขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,287 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,836 มิลลิเมตร ความสูง 1,516 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,800 กิโลกรัม

    ดีไซน์ภายใน Interior

    ภายในสปอร์ตกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านแบบท้ายตัด D-Shape จอสัมผัสแบบแท็บเล็ตขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เชื่อมต่อระบบข้อมูลรถ i-Smart ได้บวกกับลำโพง 6 จุด มาตรวัดดิจิตอล 7 นิ้ว เบาะนั่งทรงสปอร์ตสีดำหุ้มหนัง Alcantara สีดำ ปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 6 ทิศทางและปรับธรรมดา 4 ทิศทาง คอนโซลเกียร์แบบปุ่มบิด เย็นสบายด้วยระบบปรับอากาศดิจิตอล ที่วางชาร์จมือถือไร้สายที่วางแก้ว และพื้นที่ด้านหลังสำหรับวางสัมภาระที่จุมากขึ้นแบบ 60/40 เมื่อพับแล้วมีพื้นที่มากขึ้นถึง 1,165 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 363 ลิตร และชุดแป้นคันเร่งและเบรกสีเงิน

    สมรรถนะเครื่องยนต์ Performance

    ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่แรงขึ้น 435 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ 64 kWh ความจุแบตเตอรี่ที่ใช้งานจริง 61.8 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหน้าให้กำลัง 204 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลังให้กำลัง 231 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ชาร์จสองรูปแบบทั้งชาร์จข้า AC Type 2 กำลังไฟสูงสุด 7 kW จาก 10-100% ทำได้ 5.1 ชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC CCS2 สองรูปแบบตั้งแต่กำลังไฟสูงสุด 50 kW จาก 10-80% ทำได้ 52 นาทีและกำลังไฟสูงสุด 150 kW จาก 10-80% ทำได้ 35 นาที วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 385 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w

    อัปเกรดเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้กระจายกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่ในขณะเข้าโค้ง ซึ่งมีการติดตั้งระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบไดนามิกใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรกใน MG ที่มีการล็อคเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์และการควบคุมมอเตอร์อัจฉริยะเพื่อให้สามารถส่งแรงบิดระหว่างล้อทั้งสี่ได้ ระบบนี้ได้รับการกล่าวขานว่าสร้าง “การยึดเกาะสูงสุดและความสงบที่ยอดเยี่ยม” ในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วงล่างอิสระสี่ล้อพัฒนาใหม่ ปรับเทียบสปริงและแดมเปอร์ใหม่ เหล็กกันโคลงที่แข็งขึ้น และการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมขึ้น ส่งผลให้ระบบกันสะเทือนโดยรวมแข็งขึ้น 25% ทีมวิศวกรยังได้ปรับเทียบซอฟต์แวร์การเบรกแบบใหม่เพื่อให้ใช้แป้นเหยียบเดียวในสถานการณ์ที่เหมาะสมพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่มีจานระบายอากาศขนาด 345 มิลลิเมตรทั้งสี่ล้อ

    เทคโนโลยีและความปลอดภัย Safety

    ความปลอดภัย MG Pilot มาครบทั้ง

    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
    • ผสานรวมระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDP (Lane Departure Prevention)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
    • ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
    • ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมป้องกันคนบนนถนนและคนปั่นจักรยาน  AEB (Active Emergency Braking with Pedestrian and Bicycle Detection)
    • ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
    • จำกัดความเร็วอัตโนมัติพร้อมอ่านป้ายจราจร Intelligent Speed Limit Assist with traffic sign recognition
    • ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
    • ช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
    • เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
    • ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
    • ช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
    • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
    • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
    • กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)
    • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
    • ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
    • ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
    • ป้องกันล้อหมุนฟรีกับควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
    • ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
    • สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)

    MG4 XPower เป็นคู่กัดอีวีนานาชาติทั้ง Volvo EX30 Tesla Model 3 เตรียมเปิดขายที่ไทยมีนาคมนี้ ทันงาน Bangkok Motor Show 2024 ค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts