หลังจากเปิดตัวช่วงกลางปี 2023 สำหรับ Nissan Z NISMO สปอร์ตคาร์เวอร์ชันเหนือกว่า Z รุ่นปกติที่ขายทั้งญี่ปุ่น อเมริกา และบางประเทศ
แม้ท่าที่ของเมืองไทยที่ยังไม่มีแววจะนำเข้ามาขายหลังประสบความสำเร็จจากการขาย Nissan GT-R แต่ Nissan Z NISMO หรือ Nissan Z ก็ยังเป็นรุ่นที่ชาวไทยอยากให้เอามาขายด้วยหน้าตาที่ต่างจากรุ่น Z ปกติตั้งแต่ชุดกันชนหน้าแยกส่วนที่ปรับปรุงใหม่ที่เรียกว่า ‘Grand-Nose’ หรือ ‘G-Nose’ ที่ขยายไปข้างหน้ามากขึ้นและได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Datsun 240Z กันชนใหม่ยังมีกราบข้างในแต่ละมุมของกันชนเพื่อสร้างกระแสลมวนเหนือล้อหน้า โดยชุดกันชนหน้าและหลังมีรูปลักษณ์ที่เป็นเหลี่ยมมากขึ้น เพิ่มแถบสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์
ด้านข้าง มีกราบข้างประตูแบบใหม่เพื่อลดการลากและยกขึ้น เช่นเดียวกับลิปสปอยเลอร์ที่เด่นชัดยิ่งขึ้น ซึ่งขยายไปถึงบังโคลนหลัง วิศวกรของนิสสันยังได้ปรับปรุงกันชนหลังเพื่อลดแรงเสียดทาน ชุดล้อ Rays ขนาด 19 นิ้วที่ไม่เหมือนใคร เคลือบด้วยสีดำเงา Gloss Black ได้รับการพัฒนาใหม่ด้วยเช่นกันพร้อมยางหน้า 255/40R19 และยางหลัง 285/35R19 จาก Dunlop “SP SPORT MAXX GT600 พร้อมดิสก์เบรกสี่ล้อจาก NISMO คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบสำหรับดิสก์หน้าและ 2 ลูกสูบสำหรับดิสก์หลัง
พร้อมออปชันเดิมทั้ง กระจังหน้าทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ ติดโลโก้ Nissan ไฟหน้า LED มีไฟ LED Daytime สองดวงเล็กๆ ฝากระโปรงหน้าใหญ่ที่ออกแบบอย่างลงตัว โค้งมนด้วยดีไซน์ที่มีกลิ่นไอความเป็นรถสปอร์ตคูเป้ ที่เปิดประตูแบบซ่อน ตราสัญลักษณ์ Z ติดตรงเสา C ไฟท้าย LED ได้แรงบันดาลใจรุ่น 300 ZX Z32 รวมถึงกันชนหลังสไตล์สปอร์ต ติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์สีดำควงคู่ท่อไอเสียคู่
มิติตัวรถใหญ่เท่ตั้งแต่ความยาว 4,410 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร ความสูง 1,315 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,250 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,680 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 62 ลิตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 125 มิลลิเมตร ยาวกว่ารุ่นปกติ 30 มิลลิเมตร และกว้างกว่า 25 มิลลิเมตร หนักกว่ารุ่นปกติถึง 60 กิโลกรัม
ภายในมาในโทนสีดำ/แดงพร้อมชุดหุ้มหนังกลับ Alcantaraทั้ง เบาะนั่งทรงสปอร์ตจาก RECARO พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านมีจุดแดง On-Centre Mark ในชุดแผงคอนโซลหน้าสปอร์ต มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วปรับสีสันใหม่ ระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว บนคอนโซลหน้ามี 3 มาตรวัดสุดคลาสสิกที่โชว์ทั้งมาตรวัดแรงดันบูสต์เทอร์โบ ความเร็วของระบบเทอร์โบ การทำงานของแบตเตอรี่ หรือ โวลท์มิเตอร์ ปุ่ม Push Start สีแดง และแป้นเกียร์อัตโนมัติออกแบบกดปุ่ม
แรงเร้าใจกว่าด้วยพลังเบนซินเทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร V6 VR30DDTT อัพพลังใหม่ให้เด็ดดวงสูงสุด 420 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 520 นิวตันเมตรที่ 2,000-5,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหลัง ติดตั้งระบบ Limited Slip มาให้ ช่วงล่างปรับจูนมีความเฟริม์มากขึ้นถึง 12% พวงมาลัยไฟฟ้าที่สามารถรับรู้ถึงพื้นผิวถนนมากขึ้น มีการเปลี่ยนสปริงและชุดโช้กอัพ แรกกับการยึดเกาะที่เพิ่มขึ้น พร้อมดิสก์เบรกสี่ล้อจาก NISMO คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบสำหรับดิสก์หน้าและ 2 ลูกสูบสำหรับดิสก์หลัง
Nissan Z NISMO หรือ FAIRLADY Z NISMO มาพร้อมสีดำ Black Diamond Pearl, สีบอรนซ์เงิน Brilliant Silver, สีแดง Passion Red TriCoat, สีขาวมุก Everest White Pearl Tri Coat และสีเทา Stealth Grey ขายที่ญี่ปุ่นเริ่ม 9,204,000 yen หรือราว 2,239,000 บาท ราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำมาขายราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 9,589,000 บาท
ที่มา Carwatch
ที่มาภาพ Manabu Takahashi
