ครั้งแรกเมื่อ TESLA สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆชาวไทยด้วยการส่ง TESLA Cybertruck กระบะอีวีรุ่นแรกจากอเมริกามาโชว์ตัวอย่างเป็นทางการ
ชาวไทยเตรียมรับแรงกระแทกครั้งใหม่แบบตัวจริงเสียงจริงกับ TESLA Cybertruck ด้วยหน้าตามาอย่างโหดเหลี่ยมทั้งคันในร่างกระบะสี่ประตูเริ่มที่ไฟหน้า LED พาดยาวทั้งแผงด้านหน้าเรียวดูเด่นแบบ Light Bar ให้แสงสว่างแก่เส้นทางของคุณได้ไกลออกไปถึง 480 เมตรพร้อมกระจังหน้าแบบทึบชุดกันชนหน้าดีไซน์กลมกลืน ทำให้ด้านหน้าตัวรถมีพลังอันแข็งแกร่งดุดัน
ด้านข้างเด่นด้วยกระจกรถทรงสี่เหลี่ยมตามหลักเราขาคณิตพร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 285/65R20 รับกับซุ้มล้อทรงสามเหลี่ยม ด้านท้ายเหลี่ยมชัดเจนด้วยไฟท้าย LED แนวยาว
ภายในกระบะท้ายสามารถทำงานนอกสถานที่ได้ด้วย เต้ารับไฟฟ้าขนาด 120V และ 240V บริเวณกระบะและในห้องโดยสาร ในช่วงที่ไฟฟ้าส่วนกลางดับ จ่ายไฟฟ้าโดยตรงให้บ้านของคุณได้สูงสุดถึง 11.5 KW เพื่อให้มีแสงสว่าง พร้อมพื้นที่กระบะท้ายทำจากวัสดุคอมโพสิทที่แข็งแรงเป็นพิเศษไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรองและใหญ่พอสำหรับวัสดุก่อสร้างขนาด 4 นิ้ว X8 นิ้ว ด้วยน้ำหนักบรรทุก 1,134 กิโลกรัม
สามารถอำนวยความสะดวกหลากรูปแบบทั้งจุของได้เต็มสตรีมด้วยความจุทั้งหมด 3,427 ลิตรทั้งกระบะท้ายและยาวไปถึงการพับเบาะ โดยมพื้นที่กระบะท้ายเพียวๆ 1,897 ลิตร และพับเบาะแถวที่สองเพิ่มพื้นที่อีก 1,530 ลิตร หรือดัดแปลงกางเต็นท์ได้ตามใจชอบรองรับการนอนได้ 2 คน ได้อย่างสบายและพร้อมและติดตั้งเพียงไม่กี่นาที
ตัวรถมีความยาว 5,682.9 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,413.3 มิลลิเมตร ความสูง 1,790.8 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,995-3,104 กิโลกรัม ระยะต่ำสุดจากพื้นในโหมดยกตัว 433 มิลลิเมตร
โครงสร้างตัวรถทำจากเหล็กกล้าไร้สนิมช่วยลดการเกิดรอยบุบ ความเสียหายในระยะยาว ซ่อมแซมง่ายและรวดเร็วและกระจกเกราะสามารถต้านทานแรงกระแทกของลูกเบสบอลได้ที่ความเร็ว 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภายในกลายเป็นโรงหนังติดล้อด้วยหน้าจอสัมผัสสองจุดหน้า-หลัง โดยด้านหน้ามีขนาดใหญ่ 18.5 นิ้วในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในรถ และด้านหลังขนาด 9.4 นิ้ว มาแนวใหม่แบบอินฟินิตี้ (หน้าจอสัมผัสไร้ขอบ) พร้อมลำโพงรอบๆภายในถึง 15 จุดและซับวูฟเฟอร์แบบเฉพาะ 2 ตัว ให้เสียงที่กระหึ่มพร้อมความสบายแบบ 5 ที่นั่ง มุมมองจากห้องโดยสารที่กว้างขวางผ่านหลังคาพาโนรามิกรูฟกระจกรอบด้าน
ชาร์จสมบูรณ์แบบด้วยที่ชาร์จมือถือไร้สาย แล็ปท็อป หรือเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วจากที่นั่งด้านหน้า เบาะหลัง หรือเตียงด้วยการชาร์จแบบไร้สายด้วย ช่องเสียบ USB-C ขนาด 65W และ 120V/240V
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงสปอร์ตและ แผ่นกรองอากาศ HEPA ควบคุมความสะอาดของอากาศภายในห้องปกป้องเศษฝุ่นละลองได้ถึง 99.97% และติดตั้งกระจกกันเสียงช่วยทำให้ห้องโดยสารเงียบเหมือนอยู่ในอวกาศ
ขุมพลังแน่นอนว่าเป็นไฟฟ้าล้วนที่มีด้วยกันถึงสามทางเลือกตั้งแต่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่จะวางขายในปี 2025 ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังลากสูงสุด 3,402 กิโลกรัม
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิด 10,081 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 547 กิโลเมตร และวิ่งไกล 755 กิโลเมตร สำหรับติดตั้งแพ็คเกจ Range Extender ชาร์จกระแสสสับ DC กำลังสูงสุด 250 kW ภายในเวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางสูงถึง 235 กิโลเมตร
ขยับมาอีกรุ่นกับรุ่นแรงสุดขับเคลื่อนสี่ล้อ Cyberbeast มอเตอร์ไฟฟ้าสามตัว ให้กำลังสูงสุด 857 แรงม้า แรงบิด 13,960 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 2.7 วินาที ในโหมด BEAST ความเร็วสูงสุด 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 515 กิโลเมตร และวิ่งไกล 705 กิโลเมตร สำหรับติดตั้งแพ็คเกจ Range Extender ชาร์จกระแสสสับ DC กำลังสูงสุด 250 kW ภายในเวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางสูงถึง 206 กิโลเมตร ทั้งสองรุ่นมีกำลังลากสูงสุด 4,990 กิโลกรัม
TESLA Cybertruck เตรียมเปิดตัวเพื่อให้สัมผัสตัวจริงในวันที่ 6 เมษายน สามารถลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม #CybertruckinBKK กับภารกิจสุดพิเศษที่ลิงก์
https://www.tesla.com/th_th/event/tesla-th-cybertruck เพื่อแลกรับของที่ระลึกสุดลิมิเต็ดก่อนใคร