งานนี้ Toyota Camry ไม่ปล่อยให้ Honda Accord เจนที่ 11 คู่แข่งรายสำคัญสนุกสำราญกับยอดขายที่โตวันโตคืนอย่างแน่นอน
Toyota Camry เจนเนอเรชันที่ 9 เปิดตัวครั้งนี้เพื่อต้องการบอกให้โลกได้รู้ว่ารถยนต์กลุ่ม D-Segment ยังเหนียวแน่นเช่นเดิมแม้ยอดขายจะลดลงด้วยหน้าตาโชว์บอดี้รถส่วนหน้าโชว์ชุดไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C กับกระจกมองข้างทรงสปูน ยังคงสร้างจากพื้นฐาน TNGA-K เช่นเดิมจากเจนที่แล้ว พร้อมตัวรถที่ใหญ่ขึ้นแต่สิ่งที่คาดหวังไว้ว่าภายในจะหรูขึ้นดูดีขึ้นมาพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่กว่าแบบลอยตัวแนวตั้ง
ทางด้านขุมพลังยังผูกขาดกับเบนซินล้วนและไฮบริดเริ่มที่เบนซิน Dynamic Force Engine (A25A-FKS) ขนาด 2.5 ลิตร พร้อม VVT-iE วาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า กำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT เบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid VVT-IE ขนาด 2.5 ลิตร (A25A-FXS) ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVTพร้อม Sequential Shift
ส่วนเบนซินตัวใหญ่ V6 3.5 ลิตร รหัส 2GR-FKS Direct Injection Chain Drive VVT-iW ให้กำลังสูงสุด 301 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 362 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift อาจถูกปลดแล้วหันมาคบกับ Dynamic Force Engine 2.4 ลิตร เทอร์โบในรหัส T24A-FTS 269 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift
เบนซินเทอร์โบ Hybrid รหัส T24A-FTS 2.4 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยให้กำลัง 272 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 460 นิวตันเมตร ที่2,000-3,000 รอบต่อนาที โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 1ZM 61 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร และล้อหลัง 1YM ให้กำลัง 59 แรงม้า แรงบิด 169 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงถึง 350 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติDirect Shift 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four Advanced AWD พร้อมปรับปรุงระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันใหม่ด้วย
Toyota Camry เจนที่ 9 จะเปิดตัวในวันที่ 17-26 พฤศจิกายน ที่งาน Guangzhou Auto Show 2023 ที่ China Import and Export Fair Complex มณฑลกวางโจว ประเทศจีน และอาจเปิดตัวพร้อมกับอเมริกาในงาน LA Auto Show 2023 ซึ่งจัดในช่วงวันและเวลาเดียวกัน สานต่อยอดขายดีที่สุดเป็นอันดับ 5 ของสหรัฐฯถึง 295,201 คัน เมื่อปีกลาย เมืองไทยอาจพบกันในปี 2024 หรือ 2025
ที่มา Autohome
