More

    Toyota Vellfire PHEV 2024 ทางเลือกใหม่สายหรูพลังเสียบปลั๊ก

    หลังจากเปิดตัวทั้งในญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไทย และบางประเทศสำหรับ Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เจนใหม่จนขายดีถึงขั้นต้องรอกันเป็นเวลานาน

    Toyota

    และงานอาจถูกใจสาวกสายหรูเป็นแน่แท้เพราะ Toyota ได้เปิดตัวทางเลือกใหม่กับ Toyota Vellfire PHEV เด่นด้วยสัญลักษณ์ PHEV หลังคาฝาท้ายบนคำว่า E-Four นอกนั้นเหมือนกับ Vellfire ปกติตั้งแต่ กระจังหน้าโครเมียมแนวนอน 6 ชั้น พร้อมโลโก้สามห่วง ไฟหน้าแบบ LED Projector 3 ดวง พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบวิ่ง Sequential ชุดกันชนหน้า-กันชนหลังดีไซน์หรู

    ด้านข้างมีเอกลักษณ์ด้วยสัญลักษณ์ตัวอักษรเฉพาะบริเวณประตูคู่หน้าตรงเสา B เสริมคิ้วโครเมียมเด่นทั้งกรอบกระจกทุกส่วน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูน ที่เปิดประตูโครเมียมแบบดึงก้านออกแบบหลุมก้านเปิดประตูให้เรียบเนียนกับตัวถัง ชุดแผงป้ายทะเบียนท้ายติดตรา Vellfire ที่ออกแบบเว้นช่องว่างของตัวอักษรให้สวยงาม ข้างบนของชุดแผงป้ายทะเบียนติดตราสามห่วง

    ไฟท้าย LED รูปตัว U เสริมขอบโครเมียมไว้กรอบไฟท้ายและไฟตัดหมอกหลัง ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย ประตูสไลด์ 2 บาน เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า หลังคามูนรูฟแบบ Twin Moonroof 2 บานตรงกลางซ้าย-ขวา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่สุด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19 จากพื้นฐาน TNGA (GA-K)

    Toyotaภายในคล้ายกันอลังการกับงานออกแบบที่หรูหราตอบโจทย์ผู้นำเริ่มที่ ชุดเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Premium Nappa ด้วยโทนสีดำ พร้อมออปชัน เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าโดยด้านคนขับปรับได้ 8 ทิศทางพร้อมระบบความจำ 3 ตำแหน่งและผู้โดยสาร 4 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองทั้งแบบปกติและแบบ VIP Executive Lounge แยกอิสระปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet 5.5 นิ้ว คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนที่สามนั่งได้สามที่นั่งสามารถพับได้แบบ 50/50 ชุดแผงคอนโซลหน้าบุด้วยหนังสัมผัสเดินด้ายอย่างประณีต

    Toyotaจอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ 14 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอป T-Connect เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto และระบบนำทาง เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 4 โซนพร้อมระบบฟอกอากาศ Nanoe X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้า มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านออกแบบใหม่หุ้มหนังปรับสูง-ต่ำ ใกล้-ไกล 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ไฟสร้างบรรยากาศแบบ LED Ambient Illumination Light ปรับได้ 64 สี ลำโพงคุณภาพพรีเมียม JBL 15 จุด ช่องชาร์จแบบเสียบสายผ่าน USB ด้านหน้า 3 จุดและด้านหลัง 4 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สายและเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold

    ถึงแม้ขุมพลังสำหรับรุ่น PHEV ทางญี่ปุ่นยังไม่มีการเปิดเผยแต่มีความเป็นไปได้ว่าจะยกมาจาก Lexus RX450h+ ด้วยเบนซิน PHEV Dynamic Force ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้กำลังมากสุด 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 238 นิวตันเมตร ที่ 4,300-4,500 รอบ/นาทีในภาคเครื่องยนต์  ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor 5NM ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร สำหรับล้อหน้าและล้อหลังแบบ 4NM ให้กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 304 แรงม้า

    วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งอาจได้ 85 กม. ตามมาตรฐาน NEDC โดยชาร์จกระแสสลับ AC แบบ Type 2 รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดได้แก่ EV,EV/HEV,HEV และชาร์จแบตเตอรี่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลัง กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 100:0 ถึง 20:80

    Toyota

    ความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทั้ง เตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System (PCS) สามารถทำงานตอนกลางคืนและเบรกขณะข้ามแยกได้ ควบคุมความเร็วและระยะห่างหน้ารถแบบทุกย่านความเร็ว All-Speed Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) พร้อมหยุดและเคลื่อนรถอัตโนมัติ เตือนรถออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยช่วย Lane Departure Alert (LDA) ช่วยให้รถอยู่ตรงกลางแม้ไม่มีเส้นจราจร LTA (Lane Tracing Control) ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lane Change Assist (LCA) เปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB) ระบบไฟสูงปรับการกระจายแสงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam System (AHS) อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR) เตือนเมื่อรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า Traffic Movement Notification (TMN)

    Toyota

    หักเลี้ยวสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ PDA (Proactive Driving Assist) ช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้ง Curve Speed Reduction (CSR) เตือนมุมอับด้านหน้า FCTA (Front Cross Traffic Alert) เตือนรถด้านข้าง Blind Spot Monitoring (BSM) เตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เตือนขณะออกจากรถ Safe Exit Assist (SEA) กระจกมองหลังแสดงภาพจากกล้องด้านหลัง ล้างเลนส์กล้องจากการฉีดน้ำ เซนเซอร์รถอัจฉริยะสามารถเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง Intelligent Clearance Sonar ถุงลมนิรภัยรอบคัน เบื่องต้นเตรียมขายญี่ปุ่นเร็วๆนี้และอาจได้เข้ามาขายในไทยทั้งทาง Toyota และผู้นำเข้าอิสระซึ่งขายจริงจะมีการเปลี่ยนแปลงสเปกในรูปแบบไหนบ้างต้องติดตาม

    ที่มา Carwatch และ Autohome

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts