นับเป็นปีทองของค่ายรถแดนมังกรที่พร้อมบุกตลาดเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะแบรนด์รถหรูพรีเมียมล่าสุดสองแบรนด์น้องใหม่ ZEEKER และ XPENG
และยังมีแบรนด์ไฮเอนด์ที่เตรียมแนะนำภายในงาน Bangkok Motor Show 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน ที่จะถึงนี้ทั้งแบรนด์ AVATR ในเครือ CHANGAN แบรนด์ HYPER ในเครือ GAC AION และ DENZA จาก BYD มาเสริมทัพ
เริ่มที่ ZEEKR ในเครือ GEELY จากจีนมาทำตลาดเองส่วน XPENG จะขายผ่านทาง บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม MGC-ASIA และกลุ่มอรุณ พลัส ในเครือ ปตท. ในฐานะผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย หรือ ดิสทริบิวเตอร์ แล้ว ยังคว้าสิทธิ์เป็นผู้แทนจำหน่าย ZEEKR ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือ ดีลเลอร์ อีกด้วย
รุ่นรถที่จะเผยโฉมให้ชาวไทยได้รู้จักและเตรียมขายเริ่มที่ ZEEKR X เอสยูวีตัวเล็กสร้างจากแพลตฟอร์ม SEA หรือ Sustainable Experience Architecture Platform แบบ SEA-E ใช้ร่วมกับ Volvo EX30 SMART#1 และ SMART#3 ออกแบบที่เมืองโกเธนเบิร์ก สวีเดน โดยดีไซน์เนอร์ Stefan Sielaff หน้าตาเท่เดียวกันกับ ZEEKR 001
ความหรูหราจากมาตรวัดความเร็วแบบ LCD 8.8 นิ้ว จอสัมผัสตรงกลางขนาดใหหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้าแบบ AR-HUD ขนาด 24.3 นิ้ว พร้อมลำโพงคุณภาพจาก YAMAHA มากถึง 13 จุด รองรับการเชื่อมต่อแบบอิสระ Bluetooth 5.0 ประมวลผลรวดเร็วจากชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ที่ชาร์จมือถือไร้สายแบบ 50 W พร้อมหลังคากระจกพาโนรามิกรูฟความยาว 1.21 เมตร
ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ nickel-cobalt-manganese 66 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังถึง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตรวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จทำได้ 440 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.6 วินาที
และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังถึง 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จทำได้ 400 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาทีทั้งคู่ชาร์จได้สองรูปแบบทั้ง DC กระแสตรง รองรับกำลังการชาร์จ 150 kW ภายใน 28 นาที เพิ่มระยะทาง 530 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรุ่น RWD และ 510 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น AWD และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ภายใน 3.30 ชั่วโมง
ทางด้าน XPENG อาจนำ XPENG X9 ลักชัวรีเอ็มพีวีหรูที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.227 ที่สร้างจากแพลตฟอร์ม SEPA 2.0 platform ตัวถังอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ไฮไลท์เด็ดกับภายใน 7 ที่นั่ง ที่มีเบาะนั่งแถวที่ 2 ที่สามารถปรับเอนได้ทั้งพนักพิงและที่พักเท้า ออกแบบให้เข้ากับรูปร่างของชาวจีนละชาวเอเชีย เพื่อความสบายยิ่งขึ้น
ผู้โดยสารแถวที่ 2 สามารถผ่อนคลายขณะชมรายการบันเทิงบนจอทีวีติดเพดานขนาดใหญ่ 21.4 นิ้ว หากต้องการอะไรดับกระหาย ก็มี “ตู้เย็น” ในตัวพร้อมการตั้งค่าอุณหภูมิระหว่าง 0-50° C พร้อมระบบฟอกอากาศที่ทำให้หายใจได้อย่างสะดวก เครื่องปรับอากาศ เบาะนั่งแถวที่ 2 ยังติดตั้งบนแถบเลื่อนไฟฟ้า ในขณะที่แถวที่ 3 พับราบเพื่อให้เห็นพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 2,554 ลิตร
มีระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกันสะเทือนแบบถุงลมมาตรฐานพร้อมระบบส่งกำลังที่แตกต่างถึงสองเวอร์ชันเริ่มที่มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังถึง 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) 84.5 และ 101.5 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ได้ 610 และ 702 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.7 วินาที
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อกับความจุแบตเตอรี่ NMC 101.5 kWh ให้กำลังรวมถึง 503 แรงม้า แรงงบิด 640 นิวตันเมตรจากมอเตอร์คู่หน้า 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 184 แรงม้า แรงบิด 190 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ได้ 640 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที และชาร์จเร็ว DC 10 นาที วิ่งได้ไกลอีก 300 กิโลเมตรและความปลอดภัยเต็มคันด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS
นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จะเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มองค์กรธุรกิจต่างๆมีแผนเปิดตัวและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าภายในไตรมาสที่สองปีนี้ และมีแผนจัดตั้งโชว์รูมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงการวางเครือข่ายการให้บริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และธุรกิจดังกล่าวเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มธุรกิจหลักของ MGC-ASIA ได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ
ประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Retail Business) 2) ธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) 3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และพนักงานขับรถ (Car Rental and Driver Services) 4) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจครบวงจรภายใต้ MGC-ASIA Ecosystem ที่สมบูรณ์ แข็งแกร่ง จับตาสองแบรนด์ใหม่ ZEEKR และ XPENG จะตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักมากน้อยแค่ไหนต้องติดตาม
