More

    หล่อบาดใจ! MG HS 2025 ว่าที่เอสยูวีเจนใหม่

    MG พร้อมลุยตลาดทั่วโลกนอกจากตลาดเมืองจีนกับการเปิตตัวรถทั้งโมเดลใหม่และรุ่นปรับปรุงทั้งสันดาปและไฟฟ้า มีกันหลายรุ่นหนึ่งในนั้นคือ MG HS เจนใหม่

    MGแน่นอนที่สุดว่าเจเนอเรชันที่สองของ MG HS คือเอสยูวีรุ่นใหม่ที่จะมาทำตลาดแทน MG Marvel R สำหรับตลาดพวงมาลัยขวาล่าสุดทาง Whichcar ออสเตรเลีย รังสรรค์ภาพเรนเดอร์ มาฝากแฟนๆกันโดยอ้างอิงจากภาพสิทธิบัตรของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งยุโรป (EUIPO) ด้วยตัวใหญ่โต หลังคาเพรียวลงถึงจะเป็นรถทรงกล่องหน้าตาถอดแบบมาจาก MG7 หรูด้วยไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าด้วยช่องระบายอากาศทรงรังผึ้งขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ MG ติดบนกระจังหน้าทรงทึบประกบไฟหน้า LED ทรงสปอร์ต ด้านข้างกลมกลืนด้วยเส้นสายลงตัว พร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน

    MGที่เปิดประตูดึงก้าน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R18 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19 ไฟท้าย LED แนวยาวครอบทับด้วยเส้นแนวนอนนอนและกันชนหลังโดดเด่นมีระดับ ตัวรถยืมพื้นฐานของ Roewe RX5 มาเปลี่ยนตัวตนให้กลายเป็น MG นั่นเอง ด้วยความยาว 4,655 มิลลิเมตร ความกว้าง 1 ,890 มิลลิมเตร ความสูง 1,664 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,840 กิโลกรัม เมื่อเทียกับ HS รุ่นปัจจุบัน พบว่ายาวกว่า 81 มิลลิเมตร กว้างกว่า 14 มิลลิเมตร ความสูงเท่ากันและระยะฐานล้อสั้นกว่า 20 มิลลิเมตร

    ภายในมีความเป็นไปได้ว่ายกมาจาก ROEWE RX5 ด้วยแผงคอนโซลหน้าติดตั้งจอคู่รวบรวมการทำงานของมาตรวัดดิจิทัลและจอสัมผัสระบบความบันเทิงมารวมกันขนาด 27 นิ้ว สามารถเลื่อนจอไปยังตรงกลางหรือเข้าหาฝั่งคนขับ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Carplay และ Android Auto รวมถึงระบบนำทางด้วยดาวเทียม มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่จำเป็นต้องใช้มือสัมผัส ประมวลผลเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon8155 พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด D-shape ใต้จอมีช่องแอร์เชื่อมต่อกับชุดคอนโซลหน้าอย่างลงตัว พร้อมหัวเกียร์คริสตัล เบรกมือไฟฟ้า และ AUTO HOLD  เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังเบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    ขุมพลังยกมาจาก MG HS เจนปัจจุบันด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 รหัส 15E4E  พัฒนาใหม่ให้กำลังสูงสุด 188 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,700-4,300 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่  TST แบบ 7 สปีด และรุ่นเสียบปลั๊ก PHEV ที่ใช้พื้นฐานเครื่อง 1.5 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สมรรถนะสูงแบบ Hairpin Winding Technology ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตรและ แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 16.6 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 570 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ​​EDU II

    ทั้งคู่มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 4 ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal, โหมด Eco, โหมด Sport, เสริมด้วยปุ่ม Super Sport เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น, โหมด EV(รุ่น PHEV) ในรุ่น PHEV สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 50 กิโลเมตร มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Coolant System) และระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้าและสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ (Battery Management System)

    MGและอาจมีเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนออกมาด้วยอาจยกมาจาก MG Marvel R จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 70 kWh มีทั้งรุ่น Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 410 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.9 วินาที วิ่งไกลสุด 402 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP ขยับมาอีกเป็นรุ่น Long Range ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าสามตัว(คู่หน้า 1 ตัว และคู่หลัง 2 ตัว) กำลังสูงสุด 288 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 665 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 4.9 วินาที วิ่งไกลสุด 370 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP

    ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับระบบ DC ชาร์จกระแสตรง 5-80% ในเวลา 43 นาที และ 30-80% ในเวลา 30 นาที ติดตั้งระบบ V2L (Vehicle-to-Load) สามารถใช้ตัวรถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น Laptop จักรยานไฟฟ้า หรือแม้กระทั้งชาร์ตรถยนต์พลังไฟฟ้าด้วยกันก็ยังได้ ติดตั้งระบบ MG PILOT ที่เป็นเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ประกอบด้วย

    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking)
    • เตือนการออกนอกเลน (Lane departure warning system)
    • ควบคุมความเร็วตามป้ายจราจรอัตโนมัติ (Speed Assistance System)
    • ตรวจจับจุดบอดด้านหลัง (Blind Spot Detection)
    • กล้อง 360 องศา (Around View Monitor)

    จากเดิมที่ MG HS เจนใหม่จะเปิดตัวในช่วงปี 2024 ประเดิมที่อังกฤษแต่ทางออสเตรเลียกลับคาดการณ์ว่าเตรียมเปิดตัวภายในปี 2024 ก่อนจะขายจริงปลายปีหน้าหรือต้นปี 2025 แน่นอนที่สุดว่าเมืองไทยเปิดตัวอย่างแน่นอน

    ที่มา Whichcar

    ที่มาภาพเรนเดอร์  Theottle

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts