ในวันนี้ (13 พฤษภาคม 2565) กรมอุตุนิยมวิทยาพึ่งจะประกาศว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าฝนนั้นก่อปัญหากับผู้ใช้รถใช้ถนน มันทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่แย่ลง และนั่นทำให้เพิ่มโอกาสของการเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ถ้าหากว่าคุณประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน สิ่งแรกที่ต้องย้ำเตือนเสมอก็คือ คุณต้องตั้งสติให้ได้ จากนั้นทำตามคำแนะนำที่เราได้ไปรวบรวมมาให้นี้ โดยเรามีคำแนะนำให้กว้าง ๆ 8 ข้อ ด้วยกัน
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุโดยที่คุณไม่มีใบขับขี่
ถ้าหากรถของคุณมีประกันภัยรถยนต์ แต่คุณนั้นยังไม่ได้ทำใบขับขี่ คุณอาจจะพบกับปัญหาเล็กน้อยที่ตามมา คือ ประกันจะซ่อมให้เฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น ถึงแม้ว่าคุณจะทำประกันรถชั้น 1 ไว้ก็ตาม ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและการมีความรับผิดชอบต่อสังคม คุณควรที่จะทำใบขับขี่ก่อนที่จะต้องขับรถออกถนนสาธารณะเป็นเรื่องเป็นราว
สำหรับประกันรถในแต่ละชนิดนั้นจะแตกต่างกันไป ดังนี้
- ประกันรถชั้น 1 เป็นประกันที่ครอบคลุมความคุ้มครองทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี ประกันจะรับผิดชอบซ่อมให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายที่ถูกหรือผิดในการชน แต่ในกรณีที่เราต้องการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี คุณจะต้องเสีย ค่าเสียหายส่วนแรก หรือ Excess ให้กับทางประกัน ซึ่งจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไปในแต่ละเจ้า
- ประกันรถชั้น 2 และ 3 ส่วนใหญ่จะรับผิดชอบเฉพาะรถของคู่กรณีหากเกิดการชน และจะไม่สามารถเคลมในกรณีที่คุณเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณีได้ และไม่สามารถเคลมอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนสิ่งของหรือต้นไม้ได้
- ประกันรถชั้น 2+ และ 3+ จะรับผิดชอบทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี แต่คู่กรณีจะต้องเป็นยานพาหนะทางบกที่มีทะเบียนเท่านั้น และไม่สามารถเคลมอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนสิ่งของหรือต้นไม้ได้เช่นเดียวกับประกันรถชั้น 2 และ 3
- หากรถของคุณเกิดคามเสียหายโดยที่ไม่มีคู่กรณี
ในกรณีนี้รถของคุณอาจจะเกิดความเสียหาย เช่น ยางแตก, ล้อแม็กคด, หรือ อุปกรณ์ตกแต่งเสียหาย ถ้าหากว่าคุณทำประกันรถชั้น 1 เอาไว้ คุณสามารถที่จะเก็บใบเสร็จแล้วแจ้งเคลมกับทางประกันได้ โดยที่คุณอาจจะต้องจ่ายเบี้ยให้กับประกันเพิ่มเล็กน้อย
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มสุราของมึนเมา
สำหรับในกรณีนี้ประกันจะไม่รับผิดชอบหากคุณถูกตรวจพบว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ข้างต้น ประกันจะยังคงช่วยคุณรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามคุณอาจจะโดนตั้งข้อหาเมาแล้วขับแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณติดอยู่ในผู้ขับขี่ 4 กรณี ด้านล่างนี้ ซึ่งจะตัดสินว่าคุณเมาเมื่อมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
- ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์
- ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่แบบชั่วคราว (ใบอนุญาตขับขี่แบบ 2 ปี)
- ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่ประเภทอื่น ซึ่งใช้แทนกันไม่ได้
- ผู้ขับขี่ที่ถูกยกเลิกใบอนุญาตขับขี่ หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกพักใช้งานใบอนุญาตขับขี่
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุโดยที่ไม่มีป้ายทะเบียน สีรถไม่ตรง หรือขาดการต่อป้ายภาษี
ในกรณีนี้คุณไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลไป เพราะทางประกันจะอ้างอิงจากเลขตัวถังรถของคุณเป็นหลัก
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุโดนชนแล้วหนี
สิ่งแรกที่คุณต้องทำอย่างรวดเร็วที่สุดคือ จำป้ายทะเบียนรถของคู่กรณีคุณให้ได้ จากนั้นให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนและใบอนุญาตขับขี่เข้าทำการแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่นั้น ๆ แต่ถ้าหากว่าคุณจำป้ายทะเบียนรถของคู่กรณีคุณไม่ได้ คุณอาจจะขอความร่วมมือจากสถานีตำรวจให้ช่วยทำเรื่องขอดูกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุโดยที่คู่กรณียังอยู่
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ถ่ายรูปเก็บหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งภาพมุมกว้างของสถานที่บริเวณนั้น และภาพรถของเราที่เกิดอุบัติเหตุ จากนั้นจึงโทรเรียกประกันที่คุณได้ทำไว้ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด แล้วถึงจะเคลียร์รถออกจากบริเวณนั้น ประกันจากทั้ง 2 ฝ่าย จะเป็นตัวแทนพวกคุณในการเคลียร์เหตุที่เกิดกันเอง แต่ถ้าหากตกลงกันไม่ได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับคู่กรณีของคุณ
- หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุโดยที่ใบอนุญาตขับขี่ของคุณหมดอายุหรือถูกยึด
หากเป็นกรณีใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ คุณยังสามารถที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นให้กับประกันได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะพวกเขาจะอ้างอิงชื่อผู้ขับขี่ที่เอาประกันเท่านั้น แต่ถ้าหากใบอนุญาตขับขี่ของคุณถูกยึดอยู่ ให้คุณแสดงหลักฐานใบสั่งกับทางประกันแทน
- เมื่อคุณเคลียร์ปัญหากับทางคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นที่จุดเกิดเหตุหรือสถานีตำรวจ เมื่อต้องทำการเซ็นเอกสารใด ๆ ก็ตาม ขอให้คุณตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารการรับรองชิ้นส่วนที่เสียหายที่เราจะต้องเคลม เนื่องจากทางอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการที่อยู่ในเครือข่ายประกันของเราจะอ้างอิงการซ่อมแซมจากเอกสารนั้น ๆ เท่านั้น
นี่คือ 8 ข้อคร่าว ๆ ที่เราได้รวบรวมมาเพื่อหวังจะให้ผู้ที่ประสบกับอุบัติเหตุสามารถที่จะเอาตัวรอดจากปัญหาเฉพาะหน้าได้ อย่างไรก็ตามการขับขี่ที่ไม่ประมาท ตระหนักรู้ในทุกสถานการณ์ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุน่าจะเป็นการดีกว่าที่เราจะต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้เราเสียทั้งเวลา ทรัพย์สิน และอารมณ์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ