จบไตรมาสแรกของปี 2566 กับสถิติการขายรถยนต์ประจำปี ปิดการขายที่ 217,073 คัน ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยแบ่งออกเป็นตลาดรถยนต์นั่งด้วยยอดขาย 77,566 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.4% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 139,507 คัน ลดลง 10.3% โดยรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้มียอดขายจำนวน 101,472 คัน ลดลง 17.3%และในส่วนของเดือนมีนาคมขาย 79,943 คัน ลดลง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นตลาดรถยนต์นั่งด้วยยอดขาย 29,835 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.2% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 50,108 คัน ลดลง 12.8% โดยรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้มียอดขายจำนวน 36,066 คัน ลดลงเช่นกันที่ 22.2% โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2566 มีปริมาณการขาย 79,943 คัน เติบโตลดลง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมียอดขาย 29,835 คัน เติบโตเล็กน้อยที่ 0.2% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีตัวเลขการขาย 50,108 คัน ลดลงที่ 12.8% เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หลังจากที่มียอดสั่งซื้อของลูกค้าเป็นจำนวนมากในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของตัวเลขการขายสะสมไตรมาสแรกสามารถทำตัวเลขสะสมทะลุ 2 แสนคันที่ 217,073 คัน แต่ยังน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 6.1%
ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้น โดยมียอดจองรถยนต์ของทุกค่ายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่มากถึง 42,871 คัน โดยเป็นการเปิดฤดูกาลขายประจำปีด้วยเงื่อนไขการขาย “แคมเปญมอเตอร์โชว์” ที่ทุกค่ายรถยนต์ต่างแข่งขันกันเพื่อหวังกวาดยอดจองในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงก็คือลูกค้าที่ต่างเฝ้ารอ “ข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี” ตัวเลขยอดจองดังกล่าวจะทยอยส่งมอบถึงมือลูกค้า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีตัวเลขการขายที่ดีต่อเนื่องถึงเดือนพฤษภาคม
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2566
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,943 คัน ลดลง 8.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,713 คัน ลดลง 14.3% ส่วนแบ่งตลาด 32.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 17,133 คัน ลดลง 21.4% ส่วนแบ่งตลาด 21.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,185 คัน เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 4,077 คัน เพิ่มขึ้น 46.6% ส่วนแบ่งตลาด 5.1%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 4,072 คัน ลดลง 12.2% ส่วนแบ่งตลาด 5.1%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 29,835 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,953 คัน เพิ่มขึ้น 13.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 7,053 คัน ลดลง 15.3% ส่วนแบ่งตลาด 23.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,789 คัน เพิ่มขึ้น 0.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.0%
อันดับที่ 4 เอ็มจี 1,170 คัน ลดลง 24.8% ส่วนแบ่งตลาด 3.9%
อันดับที่ 5 ซูซูกิ 1,089 คัน ลดลง 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 3.7%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 50,108 คัน ลดลง 12.8%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 17,133 คัน ลดลง 21.4% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 15,760 คัน ลดลง 25.7% ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,074 คัน เพิ่มขึ้น 46.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
อันดับที่ 4 ฮอนด้า 3,132 คัน เพิ่มขึ้น 86.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
อันดับที่ 5 บีวายดี 2,434 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.9%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)ปริมาณการขาย 36,066 คัน ลดลง 22.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 15,845 คัน ลดลง 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,103 คัน ลดลง 31.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,074 คัน เพิ่มขึ้น 46.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.3%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 2,271 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
อันดับที่ 5 นิสสัน 568 คัน ลดลง 40.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 6,444 คัน เพิ่มขึ้น 11.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 2,342 คัน ลดลง 10.2% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 2,322 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,184 คัน เพิ่มขึ้น 281.9% ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 465 คัน ลดลง 37.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%
อันดับที่ 5 นิสสัน 131 คัน ลดลง 16.6% ส่วนแบ่งตลาด 2.0%
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,622 คัน ลดลง 27.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,523 คัน ลดลง 26.4% ส่วนแบ่งตลาด 45.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,761 คัน ลดลง 34.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,890 คัน เพิ่มขึ้น 17.1% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,806 คัน ลดลง 13.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับที่ 5 นิสสัน 437 คัน ลดลง 45.0% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2566
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 217,073 คัน ลดลง 6.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 75,121 คัน ลดลง 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 47,159 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 21.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 25,961 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.0%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 11,047 คัน เพิ่มขึ้น 50.1% ส่วนแบ่งตลาด 5.1%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 10,962 คัน ลดลง 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 5.0%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 77,566 คัน เพิ่มขึ้น 2.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,080 คัน เพิ่มขึ้น 38.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 17,786 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 22.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 5,218 คัน ลดลง 5.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%
อันดับที่ 4 เอ็มจี 3,976 คัน ลดลง 14.2% ส่วนแบ่งตลาด 5.1%
อันดับที่ 5 ซูซูกิ 2,645 คัน ลดลง 47.2% ส่วนแบ่งตลาด 3.4%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 139,507 คัน ลดลง 10.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 47,159 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 33.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 47,041 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,040 คัน เพิ่มขึ้น 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%
อันดับที่ 4 ฮอนด้า 8,175 คัน เพิ่มขึ้น 42.7% ส่วนแบ่งตลาด 5.9%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 5,744 คัน ลดลง 33.0% ส่วนแบ่งตลาด 4.1%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 101,472 คัน ลดลง 17.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 43,522 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 42.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 39,287 คัน ลดลง 21.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,040 คัน เพิ่มขึ้น 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.9%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 5,717 คัน ลดลง 32.9% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
อันดับที่ 5 นิสสัน 1,336 คัน ลดลง 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 18,227 คัน เพิ่มขึ้น 12.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,733 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,194 คัน เพิ่มขึ้น 25.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,562 คัน เพิ่มขึ้น 224.7% ส่วนแบ่งตลาด 19.5%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,392 คัน ลดลง 35.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.6%
อันดับที่ 5 นิสสัน 346 คัน เพิ่มขึ้น 7.5% ส่วนแบ่งตลาด 2.0%
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 83,245 คัน ลดลง 21.8%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 37,328 คัน ลดลง 22.6% ส่วนแบ่งตลาด 44.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 32,554 คัน ลดลง 23.1% ส่วนแบ่งตลาด 39.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 7,478 คัน เพิ่มขึ้น 19.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.0%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 4,325 คัน ลดลง 32.3% ส่วนแบ่งตลาด 5.2%
อันดับที่ 5 นิสสัน 990 คัน ลดลง 54.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.2%