หลังจากเปิดตัวที่อินเดียสำหรับ Honda City รุ่นปรับโฉมร่างเจนที่ 5 ที่กำลังจะกลายเป็นหน้าใหม่สำหรับเมืองไทยและมีแนวโน้มสูงที่จะเปิดตัว
ปรับครั้งนี้เริ่มที่หน้าตาภายนอกตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่เน้นช่องระบายอากาศรังผึ้งใหญ่ขึ้นขอบโครเมียมประกบไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รับกับกันชนหน้าใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้าย LEDกันชนหลังออกแบบใหม่เน้นเส้นสายส่วนล่างเรียบง่ายและมีลิ้นสปอยเลอร์หลังแนวนอนประดับด้วยไฟเรืองแสงทับทิมหลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ตั้งแต่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/55 R16 และ 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60R15
ภายในตกแต่งด้วยทูโทนสีดำในส่วนระบบหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้วรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ที่ชาร์จมือถือไร้สาย ไฟเรืองแสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient light พร้อมไฟห้องโดยสาร LED กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมออปชันเดิมทั้ง สั่งสตาร์ทรถด้วยกุญแจรีโมท Remote engine start ล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 7 นิ้ว HD full-colour TFT และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
ขุมพลังยังคงเดิมทั้ง เบนซิน VTEC Turbo 1.0 ลิตร 3 สูบ รหัส P10A6 ให้กำลังมากถึง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที ให้ค่า CO2 99 กรัม/กิโลเมตรตาม ECO Sticker จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Paddle Shift โหมดการขับขี่ ECO
พร้อมเบนซินไฮบริด e:HEV Atkinson Cycle DOHC i-VTEC รหัส LEB-H5 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบพลัง 98 แรงม้าที่ 5,600-6,400 แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ) ที่ให้กำลังได้สูงสุด 109 แรงม้าที่ 3,500-8,000 รอบ/นาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
ความปลอดภัยเต็มคัน Honda Sensing ทั้ง ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม Auto Brake Hold ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ดิสก์เบรก 4 ล้อ และถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ลุ้นกันว่าออปชันเหล่านี้จะมาอยู่ในรุ่น 1.0 VTEC Turbo ด้วยหรือไม่ต้องติดตามโดยมีแผนจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้ คาดเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม